บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ใหม่ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ Sports Activity Vehicle (SAV) ด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดพร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้นในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์

บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ใหม่ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ Sports Activity Vehicle (SAV) ด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดพร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้นในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์

      บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ก้าวสู่อีกหมุดหมายแห่งความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมผสานกับโซลูชันเพื่อการขับขี่ที่ยั่งยืน ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าในประเทศไทยจะได้สัมผัสบีเอ็มดับเบิลยู X1 ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive และระบบปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 83 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ตอกย้ำเอกลักษณ์ระดับพรีเมียมอันฝังแน่นผ่านรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน รถยนต์รุ่นนี้ยังมอบความรู้สึกอิสระที่ไม่เหมือนใครให้แก่ผู้โดยสารทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะทางไกล

 

บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ใหม่

ราคาจำหน่าย: 2,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard)

      บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ผสานพลังแห่งการขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากับจุดเด่นของเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องยนต์อันทรงพลังผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้ามอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ พร้อมลดการปลดปล่อยมลพิษ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้น ระบบ BMW eDrive เจนเนอเรชันที่ 5 ซึ่งติดตั้งในบีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport นี้ ยังช่วยปลุกเร้าผู้ขับขี่ที่มองหาสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

        บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกอย่างมีสไตล์และร่วมสมัย ในขณะที่ยังคงรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งตามสไตล์ของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม SAV พร้อมคุณสมบัติการออกแบบที่โดดเด่น ทั้งสัดส่วนอันทรงพลัง ซุ้มล้อรูปทรงเกือบสี่เหลี่ยม และส่วนหน้าและส่วนท้ายตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยู X ส่วนหน้าของบีเอ็ม
ดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ให้ความรู้สึกที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบเพรียว กระจังหน้าทรง
ไตคู่ขนาดใหญ่ที่เกือบเป็นสี่เหลี่ยม เส้นสายรูปตัว X ที่แผ่ออกไปด้านข้าง และแถบโครเมียมอันสะดุดตาที่ช่องรับอากาศด้านล่าง รถรุ่นนี้ยังติดตั้งระบบไฟหน้า Adaptive LED มาเป็นมาตรฐานพร้อมกับระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam assistant) และล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double-spoke แบบสลับสี

        ขุมพลังเบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยี TwinPower Turbo ที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่นนี้ส่งกำลังเครื่องยนต์ที่เหลือล้นถึง 110 กิโลวัตต์ / 150 แรงม้า ที่ 4,700 – 6,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,400 รอบ
ต่อนาที ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ายังส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 130 กิโลวัตต์ / 177 แรงม้า พร้อมแรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า 247 นิวตันเมตร ที่ระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าไกลถึง 83 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกันจะส่งกำลังรวมสูงสุด 240 กิโลวัตต์ / 326 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุดที่ 477 นิวตันเมตร โดยสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 5.6 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 205 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

       ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงาและราวหลังคาดีไซน์ M สีดำเงา High-gloss Shadowline โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์แบบไดนามิกด้วยหลังคากระจก Panorama เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และกระจกมองข้างพับอัตโนมัติและตัดแสงอัตโนมัติฝั่งคนขับ การตกแต่งภายในที่กว้างขวางได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันจากวัสดุระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นแผงตกแต่งภายในด้วยอลูมิเนียมลาย Hexacube Pale M คอนโซลด้านบนแบบ Luxury พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และหลังคาภายในดีไซน์ M สี Anthracite ซึ่งช่วยมอบความสะดวกสบายและความหรูหรายิ่งขึ้นให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อุปกรณ์มาตรฐานยังประกอบด้วยเบาะนั่งตอนหน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบจำตำแหน่งเฉพาะฝั่งคนขับและเบาะนั่งตอนหน้าดีไซน์สปอร์ตมอบความสะดวกสบายในขณะนั่งมากยิ่งขึ้น ชุดไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารยังมอบบรรยากาศระดับพรีเมียมที่ล้ำสมัยภายในรถด้วย

 

        BMW Live Cockpit Professional นำเสนอจอแสดงข้อมูลอันทันสมัยสำหรับผู้ขับขี่ พร้อมระบบที่ผสมผสานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน นอกจากนั้น ระบบ BMW ConnectedDrive Services ยังนำเสนอคุณสมบัติและบริการขั้นสูงมากมายที่ช่วยให้การขับขี่สะดวก มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานยิ่งขึ้น ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง HiFi Harman Kardon
มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูงอันดื่มด่ำที่สามารถปรับแต่งได้ จึงช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ประทับใจยิ่งขึ้น


       ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในบีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport ยังแสดงให้เห็นได้จากระบบขับขี่อัตโนมัติและระบบช่วยจอดที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ แบบ Steptronic พร้อมคลัตช์คู่และ Gearshift Paddles พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถในสภาพถนนต่าง ๆ ระบบ BMW Head-Up Display ยังช่วยให้ผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับท้องถนน พร้อมให้ข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ ในการขับขี่ นอกจากนั้น ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติรุ่น Plus (Parking Assistant Plus) และระบบช่วยการขับขี่ (Driving Assistant) ยังมีมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นนี้อีกด้วย

 

       ความปลอดภัยในการขับขี่ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยระบบต่าง ๆ ได้แก่ ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และตัวยึดคาร์ซีทสำหรับเด็ก ISOFIX นอกจากนั้น ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) ระบบป้องกันเสียงสำหรับคนเดินถนนและเซ็นเซอร์ตรวจจับการชนยังได้รับการติดตั้งมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่และคนเดินถนน

       บีเอ็มดับเบิลยู X1 xDrive30e M Sport มีมาให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Alpine White Solid สีดำ Black Sapphire Metallic และสีเงิน Space Silver Metallic บุภายในด้วยหนัง Sensatec Perforated สีมอคค่า ในขณะที่ตัวถังภายนอก
สีฟ้า Portimao Blue Metallic มาพร้อมกับหนัง Sensatec Perforated สีดำ

Tags :

view