ทดลองขับ TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่

ทดลองขับ TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่

      บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์ TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์นั่งขนาดเล็กในประเทศไทย ด้วยดีไซน์ภายนอกใหม่  ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง ตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พร้อมจุดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และยังเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานของรถยนต์โตโยต้า “Toyota Safety Sense”


      TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ มีการดีไซน์ภายนอกใหม่ด้วย ธีมการออกแบบ Refined & Energetic ให้ความรู้สึกสปอร์ตและคล่องตัวในการขับขี่ โดย “Hammerhead Design” เทรนด์ใหม่ล่าสุดของ TOYOTA สีภายนอกใหม่ “Cement Gray Metallic” พร้อมสีทูโทน 


      ตัวไฟหน้า Projector LED ดีไซน์ใหม่โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม  ผสานกับ Daytime Running Light พร้อมดีไซน์ “Secondary Illumination” รับกับกันชนหน้าทรงสวยที่ดูเข้ากันดี กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ แบบ “Diffuser Style” พร้อมตกแต่งด้วยลาย Carbon fiber ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว เสาอากาศแบบครีบฉลาม มิติตัวถัง ยาว 4,160 มม. กว้าง 1,730 มม. สูง 1,500 มม. ระยะฐานล้อ wheelbase 2,550 มม. ความกว้างช่วงล้อหน้า/หลัง 1,470 / 1,460 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 135 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.1 เมตร ความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร

      ส่วนดีไซน์ภายในด้วยวัสดุคุณภาพดีขึ้น พร้อมโทนสีที่หลากหลาย อย่าง “Orchid brown” ซึ่งดีไซเนอร์ได้เลือกใช้โทนสีดำ สลับกับสีน้ำตาล และเลือกใช้ “Accent ribbon” สีน้ำตาลอ่อนให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB type C 

      TOYOTA YARIS เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย และความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นอย่าง “Toyota Safety Sense” ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถยนต์โตโยต้า Blind Spot Monitor (BSM) Rear cross-Traffic Alert  (RCTA) กล้องมองรอบคัน

      ส่วนของขุมพลังเป็นตัวเดิมคือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง รหัส 3NR-VE ขนาด 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. Dual VVT-iE กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 72.5 x 72.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด : 13.5 : 1 กำลังสูงสุด 94 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมโปรแกรมทดเกียร์ Sequential Shift ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20 


       สำหรับการทดลองขับเราได้ลองกันที่  TOYOTA ALIVE นางนา ซึ่งการทดลองขับนี้มีก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มแรกเราจะได้ลองขับกันด้วยการปิดฟังค์ชั่นความปลอดภัยของตัวรถทั้งหมด ก่อนจะลองเปิดการทำงานทั้งหมดในอีกช่วง สถานีแรกเป็นการจำลองสภาพถนนที่เปียกและลื่น(มาก) โดยรถที่ได้ลองขับจะมีอาการเสียการทรงตัว เป๋ไปมาอย่างชัดเจน การควบคุมรถไม่สามารถประคองให้อยู่ในเลนได้เลย เมื่อผ่านไปแล้วก็เป็นช่วงลองอัตราเร่ง จุดนี้ดูไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมีเพียงอาการสลิปเล็กๆที่ยางเท่านั้น  ผ่านช่วงการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง TOYOTA YARIS ก็ยังสามารถควบคุมรถได้ดีอยู่แม้จะปิดตัวช่วยต่างๆอยู่ อาการโยนตัวหรืออาการโคลงของตัวถังมีน้อย ผ่านสะพานที่มีมุมค่อนข้างชันช่วงล่างของรถก็ยังทำงานได้ดี การขึ้น-ลงการกระแทกไม่มาก ผ่านช่วงการจำลองสภาพถนนที่ชำรุดและขรุขระ ระบบกันสะเทือนทำงานได้ดีกว่าที่คิด การกระแทกส่งมาถึงห้องโดยสารน้อย ช่วงล่างยังทำงานได้นุ่มนวลและหนักแน่นพอตัว 


        รอบต่อมาเราได้เปิดระบบตัวช่วยต่างๆทั้งหมดเพื่อทดลองขับขี่ดู สถานีแรกที่ลื่นมากๆ TOYOTA YARIS ไม่มีเสียการทรงตัว สามารถขับผ่านไปได้อย่างไม่เสียอาการ ไม่ลื่นหรือไถลออกนอกเส้นทางเลย ต้องยอมรับว่าระบบตัวช่วยต่างๆที่มากับรถสามารถช่วยการขับขี่ให้มีความปลอดภัยอย่างมาก การบังคับควบคุมสามารถบังคับเลี้ยวซ้าย-ขวาไปตามเส้นทางได้อย่างมั่นใจ แฟนๆ TOYOTA ที่มีชั่วโมงบินไม่สูงมากก็ยังสามารถขับขี่ได้ปลอดภัยทุกเส้นทาง (ถ้าไม่ห้าวมากนักนะ) 


       ต่อด้วยการลองอัตราเร่งซึ่งรู้สึกว่ารอบบนี้ “ดี” กว่ารอบที่แล้วหน่อยนึง จากการส่งถ่ายแรงม้าลงพื้นได้ดีกว่าเพราะไม่มีอาการสลิปเล็กๆอย่างรอบแรก ช่วงเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงตัวรถสามารถบังคับควบคุมได้มั่งคงกว่ารอบแรก ตัวรถประคองให้อยู่ในเลนได้ดังใจ แทบไม่มีอาการลื่นไถลให้รู้สึกเลยแม้จะแอบเพิ่มความเร้วในโค้งไปอีกหน่อยก็ตาม ผ่านช่วงสะพานขึ้น-ลงแบบชันๆก็ยังเหมือนเดิมไม่มีกระแทก ช่วงลงก็ยังรู้สึกนุ่มนวลแบบ “โอเค” เลย สุดท้ายทางขรุขระรอบนี้จะจับผิดมากเป็นพิเศษ อย่างเสียงารทำงานของช่วงล่างก็ไม่มีโวยวายมาให้ได้ยินให้ห้องโดยสารเลย มีเพียงเสียงยางที่บดกับถนนเท่านั้น ความนุ่มนวลของตัวรถถือว่าปรับเซ็ทมาได้กำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป


       สรุป TOYOTA YARIS รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ ในส่วนหน้าตาภายนอก “หล่อ” และดูถูกใจคนไทยดี ภายในออกแบบมาดูดีขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยมาแบบจัดเต็ม ส่วนเรื่องสมรรถนะยังคงเหมือนเดิม เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันดี กับราคาเริ่มที่ 559,000 บ. ถึงท้อปสุด  694,000 บ. ดูแล้ว “คุ้ม” เหมือนกันสำหรับการเป็นรถยนต์คันแรก…


Tags :

view