ทดลองขับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก

ทดลองขับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก


 

        สำหรับกิจกรรมทดลองขับรถยนต์ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่เรา“Speedxonline/SpeedxonairFM89.5” จะได้พิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบจากเครื่องยนต์และมอเตอร์อันทรงพลังที่มอบพละกำลังสูงสุดถึง 326 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร รวมไปถึงยังได้ลองขับขี่จากทั้ง 2 ระบบ อันได้แก่ ระบบไฮบริด และระบบอีวี โดยเฉพาะการขับขี่ในโหมดอีวี ที่เคลมไว้ว่าสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนี่งการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน รวมไปถึงเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยแห่งอนาคตที่มาพร้อมกับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV อย่าง


   •  ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

   •  ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้

   •  ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ



   •  ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน

   •  ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน

   •  ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน


        HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศาเข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว กับยางขนาด 235/55 R19 

       ภายในชูแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าทูโทนสีดำ-เทาสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start


       รวมไปถึงฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ การเชื่อมต่อและควบคุมควบคุมผ่าน GWM Application ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (IIP) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) และระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)

        All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV มากับขุมพลังและเทคโนโลยีที่อยู่บนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมกับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% - 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% - 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง 


       พร้อมด้วยตั้งฟังก์ชั่นอื่นๆอีก อาทิ ระบบการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ ที่ช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ การเชื่อมต่อและควบคุมควบคุมผ่าน GWM Application ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะประตูห้องโดยสาร ระบบตรวจสอบสถานะประตูท้าย ระบบตรวจสอบสถานะระบบปรับอากาศและฟอกอากาศ ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ระบบตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบตรวจสอบสถานะระดับแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบสถานการณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ระบบการจัดการชาร์จ

 

       การทดลองขับเราออกเดินทางจากแถวบางนามุ่งสู่จังหวัดอยุธยากัน ในการทดลองขับครั้งนี้เราจะลองวิ่งกันด้วยโหมด EV ล้วนดูว่าเจ้า HAVAL H6 Plug-in Hybrid คันนี้วิ่งจริง ใช้งานจริงจะได้ระยะทางเท่าไรกัน เริ่มออกเดินทางตัวรถภายนอกใหญ่พอตัวภายในเลยกว้างขวางนั่งสบาย ทัศนวิสัยรอบคันโปร่งโล่งดี ตำแหน่งที่นั่งกระชับความนุ่มของตัวเบาะกำลังดี เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้า  ส่วนเบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ปุ่มควบคุมต่างๆจัดวางมาได้อย่างสะดวกมือยามต้องใช้งาน หัวเกียร์เป้นแบบปุ่มกลมดูแปลกตาแต่ใช้งานง่ายดี เบรกมือเป็นแบบไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold จอแสดงผลแบบสัมผัสตรงกลางคอนโซลหน้าขนาด 12.3 นิ้ว ใช้งานง่ายและชัดเจนทุกมุมมอง พวงมาลัยทรงสปอร์ตจับถนัดมือ พร้อมปุ่มควบคุมที่จำเป็นควบถ้วน จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 10.25 นิ้ว ชัดเจนและสามารถปรับแต่งได้ทุกความต้องการ เริ่มออกตัวเราใช้ระบบการขับขี่ EV พร้อมปรับใช้งานโหมด Eco เพื่อจะได้รู่ว่าวิ่งไฟฟ้าล้วนได้จริงเท่าไร

       การออกตัวด้วยระบบไฟฟ้าล้วนถือว่าทันใจดีไม่อืดอาด สามารถเร่งแซงตามสภาพการจราจรได้ไวกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ การบังคับควบคุมพวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี เบามือยามที่ต้องบังคับเลี้ยวเพื่อแซงรถคันหน้า ตัวรถยามขับในเมืองช่วงความเร็วต่ำดูนิ่งและมั่นคง


       ช่วงล่างดูแน่นและลงตัวกว่าตัว H6 เดิม ช่วงขึ้น-ลงคอสะพานก็ไม่มีอาการยุบจนยัน ซึ่งเจออาการนี้ใน H6 ตัวก่อน ยิ่งช่วงใช้ความเร็วสูงหน่อยบนทางด่วนจะรู้สึกได้ชัดเจนว่า HAVAL H6 Plug-in Hybrid ปรับเซ็ทช่วงล่างมาได้อย่างเกมาะสมกับตัวรถและน้ำหนักที่เพิ่มมาได้เป็นอย่างดี การขับเข้าโค้งตัวรถมีอาการโคลงน้อย การย้วยขอช่วงล่างหลังก็แทบไม่มีให้รู้สึกเลยการใช้งานขับเดินทางไกลถือว่า “โอเค” เลย ไม่มีการกระแทกหนักๆให้ผู้โดยสารในรถให้เมื่อยล้า    

       ขนาดตัวระดับ SUV ขนาดกลาง (C-Segment) ก็ยังคล่องตัวยามขับขี่บนท้องถนน และดูมั่นคงดียามที่ต้องโดนพี่ใหญ่หลายล้อประกบข้างบนท้องถนนก็ตาม พวกตัวช่วยต่างๆที่เกริ่นไปช่วงแรกก้ยังทำงานได้อย่างแม่นยำและขยันขัยแข็ง ยกตัวอย่างระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)อันนนี้ตัวรถจะช่วยเบี่ยงให้ห่างจากรถใหญ่เล็กน้อยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย หรือ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)         และระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) อันนี้ใช้งานได้จริง แม่นยำและนุ่มนวล ไม่สร้างความรำคาญให้กับผู้ขับ ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆที่มีมาให้ท่วมคันยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้แต่เท่าที่ลองขับและได้ลองใช้หลายๆระบบแล้ว มั่นใจได้เลยที่ระบบอื่นๆที่มีอยู่ใน HAVAL H6 Plug-in Hybrid คันนี้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน


        ลองขับเจ้า HAVAL H6 Plug-in Hybrid จากเริ่มตันจนเดินทางกลับก็มีจังหวะที่ตัวรถเปลี่ยนระบบการขับจาก EV เป็น HEV ที่เครื่องยนต์ติดมาทำงานคู่กัน ตัวปริมาณแบตเตอรี่แจ้งมาที่หน้าปัดเหลืออยู่ 3% และระยะทางรวมทั้งหมดที่ขับได้ในระบบขับ EV ล้วนอยู่ที่ 152 กม. ตัวเลขนี้จาการทดลองขับใช้งานจริงตามสภาพกรจราจรไม่ได้ปั้นตัวเลขแต่อย่างใด เจ้า HAVAL H6 Plug-in Hybrid คันนี้จึงถือว่าเป็นรถ “ลูกครึ่ง” ที่น่าสนใจในท้องตลาดอีกหนึ่งรุ่นเลยทีเดียว

 

Tags :

view