ทดลองขับ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium จะหรูก็ได้ จะซิ่งก็ดี

ทดลองขับ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium จะหรูก็ได้ จะซิ่งก็ดี

          S-Class สัญลักษณ์แห่งผู้นํา เรือธง ยานยนต์รุ่นท้อปสุดของค่าย Mercedes-Benz หลังจากได้เปิดคัวในบ้านเราอย่างเป็นทางการ The new S-Class คือที่สุดแห่งยนตรกรรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่พร้อมมอบประสบการณ์ยานยนต์ที่เป็นที่สุดของความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำหน้าที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ กับเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบเรียง ขนาด 2,925 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น การออกแบบทั้งภายในและภายนอกใหม่หมดจด ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity ในภาษาดีไซน์ที่ได้รับการยกระดับขึ้นในทุก ๆ ส่วน พร้อมตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่งด้วยประสบการณ์ดิจิทัลที่เป็นที่สุด โดยเฉพาะระบบมัลติมีเดีย MBUX7 เจเนอเรชันใหม่ และระบบความปลอดภัยสุดล้ำหน้า ที่พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ขึ้นอีกขั้นในทุกรายละเอียด โดย The new S-Class มีวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ Mercedes-Benz S 350 d Exclusive และ Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ที่เราจะได้ทดลองขับกันในครั้งนี้


         สำหรับรุ่น S 350 d AMG Premium จะเพิ่มความพิเศษขึ้นอีกนิดจากรุ่น S 350 D EXCLUSIVE ทั้งด้านรูปลักษณ์ อุปกรณ์มาตรฐานบางรายการ ที่เห็นได้ชัดก็เช่นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูพรีเมี่ยมกว่า ขนาดและลวดลายของล้อแม็กที่แตกต่างดูหรูหราอีกระดับ รวมถึงตกแต่งภายในที่จะขยับไปไปใช้วัสดุที่พรีเมียมขึ้นอีกในบางจุด จะทำให้ S 350 D AMG PREMIUM ดูเป็นรถส่วนตัวที่มีคนขับรถให้ในวันทำงาน และเจ้าของรถสามารถขับเองในบางโอกาสที่ต้องการ


         MERCEDES-BENZ S-CLASS รุ่นใหม่ ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้านรวมถึงมอบประสบการณ์การขับขี่ก้าวไปอีกระดับ ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล เช่น MBUX (MERCEDES-BENZ USER EXPERIENCE) ร่วมด้วยการพัฒนาใหม่ที่เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับเคลื่อนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เทคนิคใหม่ ได้แก่ การบังคับเลี้ยวที่เพลาล้อหลัง (ไม่มีในรุ่นที่ขายในประเทศไทย) นวัตกรรมด้านความปลอดภัยแบบใหม่ เช่น ถุงลมนิรภัยด้านหลังแบบใหม่ PRE-SAFE®   IMPULSE SIDE ระบบกันสะเทือน E-ACTIVE BODY CONTROL แบบแอกทีฟ การพัฒนาการขับขี่แบบอัตโนมัติ ระบบการจอดรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับได้รับการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยในแบบอัตโนมัติมากขึ้น เมื่อต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ ระบบต่างๆ จะเฝ้าระวังและควบคุมการเคลื่อนที่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย การรวมระบบต่างๆ เข้ากับ MBUX เพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการแสดงภาพผ่านจอมอนิเตอร์ที่เข้าสู่มิติใหม่ทั้งหมด และอีกระดับของความสบาย ผ่อนคลายในทุกการเคลื่อนไหวที่สุดของเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อความผ่อนคลายและสะดวกสบายสูงสุด กับห้องโดยสารที่ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ในทุกอิริยาบถ ด้วยระบบ ENERGIZING COMFORT CONTROL ที่ควบคุมการทํางานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร PREMIUM AMBIENT LIGHTING ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมไปถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหลังที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายจากการทํางานที่เหนื่อยล้าตลอดทั้งวัน


          Mercedes-Benz S-Class รุ่นใหม่ ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้านรวมถึงมอบประสบการณ์การขับขี่ก้าวไปอีกระดับ นวัตกรรมดิจิทัล เช่น MBUX (Mercedes-Benz User Experience) ร่วมด้วยการพัฒนาใหม่ที่เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับเคลื่อนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น เทคนิคใหม่ ได้แก่ การบังคับเลี้ยวที่เพลาล้อหลัง (ไม่มีในรุ่นที่ขายในประเทศไทย) นวัตกรรมด้านความปลอดภัยแบบใหม่ เช่น ถุงลมนิรภัยด้านหลัง ในฐานะที่เป็นฟังก์ชันใหม่ของ PRE-SAFE® Impulse Side ระบบกันสะเทือน E-ACTIVE BODY CONTROL แบบแอกทีฟ การพัฒนาอย่างเป็นระบบ ของฟังก์ชันช่วยเหลือการขับก้าวไปอีกขั้นสู่การขับขี่แบบอัตโนมัติ ระบบการจอดรถอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับได้รับการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ความปลอดภัยในแบบอัตโนมัติมากขึ้น เมื่อต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ ระบบต่างๆ จะเฝ้าระวังและควบคุมการเคลื่อนที่ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย การรวมระบบต่างๆ เข้ากับ MBUX เพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการแสดงภาพผ่านจอมอนิเตอร์ที่เข้าสู่มิติใหม่ทั้งหมด


          ภายนอกโดดเด่นถึงขีดสุดตั้งแต่ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ไฟหน้าใหม่แบบ MULTIBEAM LED พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE HIGHBEAM ที่ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร ล้อ AMG ขนาดใหญ่สูงสุด 20 นิ้ว กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 51 มิลลิเมตร เส้นโค้งหลังคา Catwalk line ที่กดองศาของหลังคาให้ต่ำลง ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ตขึ้น พื้นที่ห้องโดยสารไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มพื้นที่มากขึ้น การออกแบบให้มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles) ยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตูทำได้อย่างสะดวกสบายเพียงใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 5,289 มิลลิเมตร กว้าง 2,109 มิลลิเมตร สูง 1,503 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 3,216 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,389 กิโลกรัม


         ส่วนภายนอกของทั้ง 2 รุ่น ต่างกันที่ชุดบอดี้พาร์ทกับขนาดล้อแม็ก S 350 D AMG PREMIUM จะดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วย ล้อแม็ก AMG ลายสวยขนาด 20 นิ้ว ส่วนรุ่น S 350 d Exclusive ให้ล้อ 19 นิ้วลายซี่ละเอียด รับกับด้วยเส้นสายหลักของตัวรถที่ออกแบบใหม่ที่ให้ความรู้สึกทันสมัย แถมตัวรถรู้สึกกระทัดรัดขึ้นแต่ภายในยังกว้างขวางเช่นเดิม  ไฟหน้า MULTIBEAM LED เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น


        การตกแต่งภายในทั้ง 2 รุ่น สร้างความแตกต่างด้านบุคลิคได้ชัดเจนเช่นเดียวกับภายนอก รวมถึงการลดปุ่มควบคุมต่างๆภายในห้องดดยสารลงถึง 20 กว่าจุด ส่งผลให้ไม่มีลูกเล่นอะไรมากสำหรับผู้ขับเพื่อให้มีสมาธิกับการขับอย่างเต็มที่ สำหรับ S 350 D AMG PREMIUM ใช้เป็นพวงมาลัย 3 ก้านทรงสปอร์ตกว่าตัว S 350 d Exclusive เบาะนั่งดีไซน์เหมือนกันแต่วัสดุของ S 350 D AMG PREMIUM จะดูดีกว่ากันหน่อย อุปกรณ์มาตรฐานของทั้ง 2 รุ่นประกอบด้วย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa, มาตรวัดฟูลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว, จอสัมผัสแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX7 รุ่นใหม่แบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว จัดวางแบบลอยตัวที่คอนโซลกลาง ออกแบบให้ควบรวมกับปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง ผู้ขับสามารถควบคุมการทำงานของรถและฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องโดยสารได้ทั้งหมด มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือสำหรับเก็บข้อมูลส่วนบุคคลด้วย


        ตัวเบาะนั่งด้านหลังมาพร้อม Rear Seat Comfort Package ปรับตำแหน่งที่นั่งได้ด้วยระบบไฟฟ้า ตำแหน่งเบาะหลังฝั่งซ้ายมีปุ่มปรับเอนแบบ One-Touch สัมผัสปุ่มเบาๆ เพียงครั้งเดียว พนักพิงเบาะหน้าข้างผู้ขับจะปรับตั้ง เก็บหมองรองศีรษะลงและเลื่อนไปข้างหน้า (ที่บังแดดด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารต้องพับเก็บในตำแหน่ง) จากนั้นเบาะหลังจะปรับเอนนอน มีหมอนรองน่องเลื่อนขึ้นมารับช่วงขา พร้อมหลับได้ทันที หรือถ้าเมื่อยก็มีฟังก์ชันการนวดที่สามารถเลือกโปรแกรมการนวดได้สูงสุด 6 โปรแกรมทั้งนวดร้อนและเย็น เบาะหน้าฝั่งผู้โดยสารเลื่อนไปด้านหน้าจนสุดแล้ว ก็ไม่บังกระจกมองข้างฝั่งซ้าย ผู้ขับยังขับได้ปกติ ส่วนระบบ MBUX High-End Rear Seat Entertainment ทำงานร่วมกับ Rear Tablet ซึ่งมีจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้วให้ผู้โดยสารตอนหลังใช้งาน โดยเฉพาะการควบคุมระบบความบันเทิงบนจอขนาด 11.6 นิ้วรุ่นใหม่ 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง


         ปิดท้ายด้วยระบบเสียง Burmester® 3D-Surround 15 ลำโพง และยังมีระบบ MBUX Interior ตอบรับการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้โดยสาร ตัวระบบจะตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ ศีรษะ และร่างกาย เพื่อแปลความต้องการของผู้ใช้ นำไปสู่การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ เช่น หากยื่นมือขึ้นหรือลงทางกระจกด้านข้าง ไฟอ่านหนังสือจะติดขึ้นหรือดับลงเองโดยอัตโนมัติ


         ในส่วนของสมรรถนะ S 350 D AMG PREMIUM คันนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง 2,925 ซีซี เทอร์โบ 2-stage กำลังสูงสุด 286 แรงม้า (PS) ที่ 3,400-4,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม. ที่รอบต่ำเพียง 1,200-3,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


         ส่วนของการทดลองขับในวันนี้เริ่มออกสตาร์ทจากแถวบางนากันดดยเส้นทางการลองขับเราได้กำหนดเอาเองตามสบาย เมื่อเปิดประตูเข้าไปนั่งในตำแหน่งผู้ขับต้องแปลกใจกับดีไซน์ใหม่ของทาง Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ที่ดูโล่งตามากกว่ารุ่นก่อนๆ ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆถูกเอาออกไปเยอะเลยทีเดียว คงเหลือแต่ปุ่มควบคุมที่จำเป็นและใช้งานบ่อยๆเท่านั้น แถมยังเปลี่ยนการใช้งานจากที่ต้อง “กด” ให้เป็นระบบสัมผัสเกือบทั้งหมด ส่วนการควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ต่างๆถูกโยกให้ไปรวมอยู่ในหน้าจอ MBUX7 แบบทัชสกรีน OLED ขนาด 12.8 นิ้วทั้งหมด ลองใช้งานดูแล้วถือว่า ง่าย” มากกว่าที่คิดแถมยังจัดวางตำแหน่งให้สามารถเอื้อมไปใช้งานอย่างสะดวกกว่าเดิม


         พวงมาลัยทรงสปอร์ต “ตูดตัด”ก็ยังจัดวางปุ่มควบคุมให้ใช้งานเท่าที่จำเป็นแถมยังใช้งานสะดวกด้วยระบบสัมผัสทำให้มีสมาธิในการขับรถอย่างเต็มที่ การเปลี่ยนเกียร์เป็นก้านด้านขวามือหลังพวงมาลัยใช้งานถนัดดี การขับขี่สามารถปรัตั้งโหมดได้ตามที่ต้องการ ทั้งส่วนของเครื่องยนต์ การควบคุม ช่วงล่าง ซึ่งมีโหมดสำเร็จให้ใช้แถมยังมีโหมดให้ปรับตั้งเองตามความต้องการอีก ออกเดินทางด้วยตัวรถขนาดใหญ่ยังคงมีความคล่องตัว การออกตัวถือว่ารวดเร็วทันใจมาก อัตราเร่งนโหมดปกติยังไม่อืดอาดแต่มีความนุ่มนวลไม่กระชาก พอเปลี่ยนโหมดเป็น Sport เสียงเครื่องยนต์ก็คำรามออกมาได้อย่างเร้าใจดี อัตราเร่งจัดจ้านขึ้นมากว่าเดิมอย่างรุ้สึกได้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ใช้เวลาไป 6.4 วินาทีตามที่แจ้งมาคงไม่ผิดเพี้ยน ช่วงล่างโหมดปกติทำให้รถนุ่มนวลนั่งสบายมาก ปรับเป็น Sport ความรู้สึกของช่วงล่างจะเฟิร์มขึ้นมาอีกหน่อย การทำงานแน่นหนึบมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้กระด้างอะไรเลยสมราคารถจริงๆ


         ส่วนการใช้งานปุ่มต่างๆภายในห้องโดยสารจากเดิมที่ Mercedes–Benz จะมีปุ่มให้ใช้งานมากมายจะบางครั้งก็รู้สึกว่าใช้งานยากไปหน่อย มาคราวนี้ปุมต่างๆลดลงไปกว่า 20 ปุ่มเลยทีเดียว สงผลให้ภยในห้องโดยสารเป็น “มิตร” มากขึ้น ไม่รกรุ่งรัง เหลือเพียงปุ่มควบคุมที่จำเป็นและใช้งานบ่อยบนพวงมาลัยและใต้จอแสดงผลตรงกลางเท่านั้น ส่วนถ้าต้องการปรับแต่อะไรที่ “ลึก” ขึ้นก็ต้องเข้าไปจิ้มๆที่หน้าจอตรงกลางแทนซ฿งลองแล้วใช้งานได้ง่ายมาก ส่วนที่นั่งตอนหลังก็ยังมีจอแสดงผล 3 จุด ที่สามารถควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ต่างๆแทนตำแหน่งผู้ขับได้อีก และยังแยกการใช้งานของที่นั่งซ้าย-ขวาอย่างอิสระและเป็นส่วนตัว  


         MERCEDES-BENZ S 350 D AMG PREMIUM รถหรูระดับท้อปที่เจ้าของจะนั่งหล่อๆอยู่ด้านหลังหรือขับด้วยตัวเองก็เหมาะสมทั้งคู่ ภายในห้องโดดยสารออกแบบใหม่ด้วยการลดปุ่มควบคุมต่างๆจนดูโปร่งสบายตาส่งผลให้ตัวรถเป็นมิตรกับผู้ใช้มาขึ้น สมรรถนะยอดเยี่ยม จะขับนุ่มๆสบายๆก็ดีหรือจะซิ่งแก้ง่วงบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ก็ทำได้ อีกทั้งยังปลอดภัยขีดสุด ซึ่งถ้างบถึงรถระดับนี้ “คุ้มค่า” ทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว


Tags :

view