วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม “Volvo Electrify Your Driving Experience” เปิดสนามทดสอบให้แก่ผู้สนใจทดลองขับและสื่อมวลชนได้มาสัมผัสกับสุดยอดเทคโนโลยีด้านการขับขี่และความปลอดภัย และสมรรถนะอันทรงพลังของระบบขับเคลื่อนในวอลโว่ ที่สนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต พัทยา โดยมีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง Volvo C40 Recharge Pure Electric และ Volvo XC40 Recharge Pure Electric ที่นำมาให้ทดสอบประสิทธิภาพการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นยอดนิยมในตระกูล Recharge Plug-in Hybrid ได้แก่ XC40, S60, V60, XC60, S90 และ XC90
สำหรับการจัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์วอลโว่ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถวอลโว่ทั้งในรุ่น Pure Electric และ Plug-in Hybrid ได้อย่างไร้ขีดจำกัดและปลอดภัยโดยมีครูฝึกผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับรถ และเทคนิคการขับในเส้นทางทดสอบกว่า 8 กิโลเมตร ผ่านสถานีทดสอบต่างๆ อาทิ ทดสอบสมรรถนะและประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน อัตราเร่ง 0-100 การขับขี่แบบสลาลม เบรก เข้าโค้ง การควบคุมพวงมาลัย และการควบคุมรถ
ทดสอบเทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยเหลือเพื่อการขับขี่และความปลอดภัย, ทดลองใช้งานระบบเชื่อมต่อและมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงในรถ (iCUP) และทดสอบพลังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า Pure Electric ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอันเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนารถวอลโว่
Volvo C40 Recharge Pure Electric
สำหรับรุ่นที่เราเลือกมาทดลองขับคือ Volvo C40 Recharge Pure Electric ส่วนของภายนอกโดเด่นด้วย LED headlight with active high beam ตัวรถมาในสไตล์ Sportback ท้ายลาด พาโนรามิกซันรูฟใช้กระจกเคลือบลามิเนตซึ่งให้การปกป้องจากแสงสะท้อนและรังสี UV อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่โปร่งสบายและเป็นธรรมชาติมากขึ้นใน ตัวรถเป้นแบบ 5 ที่นั่ง ขนาดพื้นที่ใช้สอย ที่ว่างเหนือศีรษะด้านหน้า/ ด้านท้าย 1040 mm / 932 mm ความจุห้องเก็บสัมภาระ 413 ล. ความยาว 4440 มม. ความกว้าง 1873 มม. ความสูง 1591 มม. และ ความสามารถในการลากพ่วงสูงสุด 1800 กก
การตกแต่งภายในของ C40 Recharge สร้างขึ้นโดยปราศจากการใช้หนังสัตว์ทุกชนิด และเป็นการแสดงออกอย่างแท้จริงถึงความหรูหราที่มีความรับผิดชอบ พร้อมซ่อนไฟส่องสว่างที่ได้แรงบันดาลใจจากสภาพภูมิประเทศ ช่วยสร้างแสงที่เป็นธรรมชาติ ผ่อนคลาย และให้ความรู้สึกร่วมสมัยในห้องโดยสาร
เพิ่มการนำทางด้วย Google Maps ที่ผสานรวมอย่างสมบูรณ์แบบใน C40 Recharge ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์พร้อมด้วยการปรับเปลี่ยนเส้นทางโดยอัตโนมัติ พูดคุยกับ Google ใน C40 Recharge เพื่อการควบคุมแบบแฮนด์ฟรี ไม่ว่าจะหาเส้นทาง เพลิดเพลินกับความบันเทิง หรือติดต่อกับเพื่อนฝูง ครอบครัว และเพื่อนร่วมงาน แค่พูดว่า “Hey Google” แล้วก็เริ่มต้นใช้งานได้เลย Google Play ใน C40 Recharge ของคุณช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับแอปและบริการต่างๆ ที่จะทำให้ทุกการเดินทางสนุกสนานและสะดวกสบายยิ่งขึ้น C40 Recharge ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รับการอัปเดตโดยอัตโนมัติผ่านทางดาวเทียม* เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้เพลิดเพลินกับรถยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตลอดเวลาและทันสมัยอยู่เสมอ
ระบบฟอกอากาศป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันตรายเข้าสู่ห้องโดยสารได้สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยให้ทุกชีวิตในโดยสารได้สัมผัสกับคุณภาพอากาศที่ดี ไม่ว่าสภาพอากาศภายนอกจะเป็นอย่างไรก็ตาม แถมยังสามารถตรวจสอบระดับของฝุ่นและละอองเกสรที่อยู่ภายนอกรถยนต์ได้ด้ว
เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่สุดล้ำสมัยของเราสามารถช่วยคุณรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า ด้วยการปรับความเร็วของรถ รักษาตำแหน่งรถให้อยู่ตรงกลางเลน แจ้งให้คุณทราบเมื่อถึงเวลาที่ต้องขับรถต่อ และแม้แต่ช่วยหยุดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบในภาวะที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนอง
ทั้งยังสามารถสมัครสมาชิกแพ็คเกจบริการดิจิทัลแล้วก็เพลิดเพลินไปกับการเข้าถึงบริการระยะไกลทั้งหมดในแอป Volvo Cars รวมทั้งการล็อกและปลดล็อก การทำความสะอาดห้องโดยสาร และการปรับความร้อนหรือความเย็นล่วงหน้า รวมถึงเริ่มการชาร์จ
มุมมอง 360° ขณะเข้าจอด
ด้วยกล้องสี่ตัวที่ให้มุมมอง 360 องศา และเซ็นเซอร์ด้านข้าง เพิ่มการรับรู้วัตถุที่อยู่ด้านข้างรถ ระบบของเราจะช่วยให้คุณจอดรถได้อย่างมั่นใจ แม้ในพื้นที่จำกัด
การแจ้งเตือน Cross Traffic Alert พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ในขณะถอยรถในมุมมองที่จำกัด ระบบสามารถตรวจจับยานพาหนะที่ตัดผ่านมาทางด้านหลัง และหากจำเป็นก็สามารถเบรกอัตโนมัติได้
ระบบ Blind Spot Information System (BLIS) ของเราให้การช่วยเหลือในขณะเปลี่ยนเลน หากมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันอื่นในเลนที่อยู่ติดกัน BLIS สามารถค่อยๆบังคับพวงมาลัยเพื่อช่วยให้คุณ รถของคุณ และคนที่คุณรักอยู่ในตำแหน่งที่ต้องกา
ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะสามารถช่วยคุณตรวจจับและหลีกเลี่ยงรถคันอื่น คนเดินเท้า คนขี่จักรยาน และสัตว์ขนาดใหญ่ โดยครั้งแรกจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ จากนั้น จะทำการเบรกอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนอง
โครงสร้างตัวถังอันล้ำสมัย และกรงนิรภัยสำหรับแบตเตอรี่ที่ไม่เหมือนใคร ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องผู้โดยสารทุกคนจากการชน รวมทั้งช่วยปกป้องผู้โดยสารในรถคันอื่นด้วย
ขุมพลังมอเตอร์ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Dual Motor AWD ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า ที่ 4,350 – 13,900 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 4.7 วินาที ระยะเดินทางด้วยไฟฟ้าทำได้ 530กม.
ส่วนของการทดลองขับ ขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งผู้ขับแล้วค่อนข้างกระชับพอดีแบบสปอร์ตที่ไม่รู้สึเวิ้งว้างจนเกินไป ทัศนวิสัยด้านหน้ากับด้านข้างโปร่งสบายตาดี แต่ในส่วนด้านท้ายจะดู “ทึบ” ไปหน่อยตามดีไซน์ของตัวรถ การจัดวางตำแหน่งพวงมาลัยและปุ่มควบคุมต่างๆค่อนข้างลงตัวและใช้งานได้สะดวกดี การออกแบบภายในดูเรียบร้อยและดูดีตามแบบฉบับเอกลักษณ์ของค่ายอย่างเต็มเปี่ยม
สถานีแรกอัตราเร่ง เป็นการลองอัตราเร่งของเจ้า C40 จากจุดหยุดนิ่งซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ต้องยอมรับเลยว่าอัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้านั้น “ดี” กว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอย่างชัดเจน อัตราเร่งดุดัน มาเร็ว และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้น ช่วงกลางจนถึงช่วงปลายอัตราเร่งก็ยังมาอย่างต่อเนื่องไม่มีรอยต่อเหมือนเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ ดังนั้นอัตราเร่งขนาดนี้การเร่งแซงบนท้องถนนจริงก็คงจะดีเยี่ยมและช่วยไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยใจเวลาแซงแต่ละครั้ง
ต่อด้วยการลองบังคับควบคุมผ่านโค้งต่างๆทั้งแบบกว้างและแคบ ตัวรถมีส่วนสูงที่ไม่มากนักเลยมีการทรงตัวที่ดี อีกทั้งเป็นรถที่ขับเคลื่อนทั้งล้อหน้าและหลัง ทำให้การเกาะถนนดีเยียม ในโค้งเกาะถนนดีมาก แถมตัวรถยังไม่เสียการทรงตัวเพราะการส่งกำลังสู่ล้อทำได้ต่อเนื่องและนุ่มนวล ไม่กระชาก การโยนตัวของตัวถังก็มีน้อยมาก
สถานี lane change เจ้า c40 ก็ยังสามารถขับผ่านไปได้อย่างเฉียบคมและนุ่มนวล การบังคับควบคุมเพื่อเอาตัวรอดก็ทำได้ดี ตัวช่วยการทรงตัวต่างๆก็ทำงานได้อย่างมั่นใจจึงทำให้การขับผ่านอุปสรรคต่างๆเป็นไปได้อย่างง่ายดายถึงแม้ผู้ขับจะเป็นมือใหม่ก็ตาม ส่วนของรถบบคันเร่งที่มีการทำงานนุ่มนวลมากไม่กระชากเหมือนรถยนตืไฟฟ้าหลายๆค่าย ทำใหเการขับขี่มีความสะดวกสบายมากทั้งผู้ขับและผู้โดยสาร
สรุป Volvo C40 Recharge Pure Electric คันนี้ดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในสวยงามร่วมสมัย สมรรถนะดี ขับสนุกและใช้งานได้ลงตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง อีกทั้งสามารถวิ่งได้ระยะทางเยอะพอสมควรต่อการชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง ซึ่งราคาระดับ 2,790,000- ก็ดูสมควรแล้วนะครับ……