ลองขี่ Scram 411 เออร์เบิน สแกรมเบลอร์ รุ่นแรกจากรอยัล เอ็นฟีลด์

ลองขี่ Scram 411 เออร์เบิน สแกรมเบลอร์ รุ่นแรกจากรอยัล เอ็นฟีลด์

     ค่าย รอยัล เอ็นฟีลด์ ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250 cc - 750 cc) ประกาศเปิดตัว Royal Enfield Scram 411 รถจักรยานยนต์เออร์เบิน สแกรมเบลอร์  รุ่นแรกของแบรนด์ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 หรือ Thailand International Motor Expo 2022 ที่ผ่านมา


     Scram 411 เป็นรถสไตล์เออร์เบิน สแกรมเบลอร์ ที่มีความโดดเด่น เข้าถึงได้ง่าย อเนกประสงค์ในทุกสไตล์การขี่ทั้งบนถนนในเมือง หรือจะขี่ไปผจญภัยบนเส้นทางต่างจังหวัด เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมาที่ประเทศอินเดีย เป็นรถจักรยานยนต์ที่ต่อไลน์มาจากรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ ทัวเรอร์ รุ่นยอดนิยมอย่าง Himalayan โดย Scram 411 ให้สไตล์การขับขี่ในแบบรถแนวสแกรมเบลอร์ ที่ผสานกับ DNA การผจญภัยได้อย่างตัว มาพร้อมแพลตฟอร์มเครื่องยนต์ LS-410 แชสซี (chassis) ของ Harris Performance และรูปทรงใหม่ที่อิงตามหลักสรีรศาสตร์ (ergonomics) จึงมีความคล่องตัวในทุกเส้นทาง



     SCRAM 411 งานการออกแบบยังดูดีและมีคุณภาพ งานสีของตัวถังก็สวยงามดูพรีเมี่ยมไม่น้อย ดีไซน์ที่มีความเฉพาะตัว ส่วนสีสันที่มีให้เลือกทีก็สื่อถึงความสนุกในทุกการขับขี่ วัสดุอุปกรณ์ของตัวรถก็ดูมีคุณภาพเหนือกว่าราคาค่าตัว ลองขึ้นคร่อมตัวเบาะความสูงไม่มากนั่งแล้วยังสามารถวางเท้าได้เต็มที่ ตำแหน่งท่านั่งจะค่อนไปทางด้านหน้ารถหน่อยๆจากลักษณะตัวรถที่เป็นสไตล์แอดเวนเจอร์ ทัวเรอร์ ที่ต้องมีการยืนควบคุมรถในหลายๆจังหวะ แฮนด์ทรงกว้างจับได้ถนัดมือ แถมยังช่วยให้การควบคุมรถแม่นนำและเบาแรงดี ยิ่งตัวรถจะมีความสูงกว่ารถทั่วๆไปหน่อยเลยเป็นผลดี ทัศนวิสัยในการขี่ดีเยี่ยม สามารถมองได้เคลียร์ทั้งใกล้และไกล


     สตาร์ทเครื่องเสียงการทำงานมาแบบเบาๆแน่นๆตามสไตล์สูบเดียว โดย SCRAM 411  เป็นเครื่องยนต์ 1 สูบขนาด 411 ซี.ซี. 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ส่งกำลังขับเคลื่อนผ่านชุดเกียร์แบบ 5 สปีด ซึ่งสามารถรีดกำลังออกมาได้ที่ 24.5 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 32 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ลองเบิ้ลคันเร่งรอบเครื่องยนต์ขึ้นอย่างช้าๆไม่เร็วอย่างพวกสปอร์ตรอบจัดแต่ก็มาแบบหนักๆติดมือที่เน้นแรงบิดเป็นหลัก คลัทช์นุ่มมือ เบาแรง คันเกียร์อยู่ในตำแหน่งกลางๆตัวรถ พอดีเท้าใช้งานได้สะดวก


      ออกตัวถือว่าง่ายและนุ่มนวล ไม่มีการกระชากอย่างพวกรถสปอร์ต อัตราเร่งช่วงต้นถือว่า “ดี” ตามแบบฉบับเครื่องสูบเดียว การเร่งแซงบิดคันเร่งไม่มากแรงบิดก็ออกมาอย่างทันใจทำให้การใช้งานในเมืองมีความสะดวกไม่น้อย ยามมุดผ่านการจราจรที่คับคั่งกำลังของเครื่องเหลือเฝือกับการใช้งาน สามารถเร่งและผ่อนตามจังหวะการจราจรบนท้องถนนได้ไม่น้อยหน้ามอเตอร์ไซค์เล็กๆที่ร่วมทางเลย แต่จะมีปัญหาหน่อยตรงที่แฮนด์เป็นแบบกว้างหน่อย ยามมุดเลยต้องกะระยะให้ดี แต่ผู้ขี่ลองทำความคุ้นเคยไม่นานก็สามารถกะระยะความปลอดภัยได้ และก็สามารถใช้งานผ่านเส้นทางที่มีการจราจรระดับ “แน่น” ยามเช้าใจกลางเมืองหลวงได้อย่างสบายๆ


      ระบบช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวลขี่สบาย ยามผ่านฝาท่อระบายน้ำในเมืองจะไม่มีอาการกระแทกมาก การซับแรงสั่นสะเทือนทำได้ดี จังหวะมุดไปมาบนถนนรวมถึงการพลิกเข้าโค้งแคบๆในซอยก็ยังทำได้ดี ขี่ง่าย คุมง่าย ระบบกันสะเทือนแบบเดียวกับ Himalayan แต่จะมีการปรับเซ็ทค่าระยะยุบตัวที่แตกต่างกันโดยตัวรถจะมาพร้อมโช้คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาดแกน 41 มม. ซึ่งให้ระยะยุบที่ 190 มม. ส่วนด้านหลังมาพร้อม Mono Shock แบบแขนยึดพร้อมระยะยุบที่ 180 มม. ระบบเบรกเป็นดิสก์เบรกลูสูบคู่ด้านหน้าจานขนาด 300 มม. ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว ลูสูบเดี่ยว จานขนาด 240 มม. พร้อมระบบเบรก ABS แบบ Dual Channel มาด้วย


     SCRAM 411 มีระยะฐานล้อ 1,455 มม. ความสูงเบาะ 795 มม.  ความยาว 2,160 มม. ความกว้าง 840 มม. ความสูง 1,165 มม. ชุดล้อแบบซี่ลวด ขนาดหน้า 19 นิ้ว และ หลัง 17 นิ้ว ถังน้ำมัน 15 ลิตร Royal Enfield Scram 411 กับน้ำหนักตัว185 กก.

     ขี่ออกมานอกตัวเมืองที่สามารถทำความเร็วได้มากขึ้น SCRAM 411 สามารถสร้างอัตราเร่งได้ดีพอประมาณ สามารถเร่งแซงได้อย่างทันใจ อัตราเร่งช่วงต้นขึ้นไวใช้ได้ แต่ช่วงกลางอาจจะดูอืดลงนิดหน่อยแต่ก็ยังมีอัตราเร่งที่ดีอยู่ ช่วงความเร็วปลายระดับ 120 กม./ชม. อาจจะต้องรอไหลเป้นระยะทางยาวๆหน่อย แต่ก็แน่นอนแล้วว่าเจ้า SCRAM 411 ดูจะเหมาะกับการขี่ใช้งานแบบท่องเที่ยวเรื่อยๆ สบายๆ ไม่รีบเร่ง


     ส่วนการลองลุยในเส้นทางครอส SCRAM 411 มากับยางที่ดีไซน์ให้สามารถใช้งานในเส้นทางธรรมชาติได้ โดยเฉพาะเส้นทางดิน กรวด สไตล์ทางครอส อันนี้ดูจะเหมาะสมกับตัวรถเป็นอย่างมาก การซับแรงการแทกยามขึ้นเนินทำได้ดี แต่ช่วงลงเนินการซับแรงกระแทกก็ยังพอรับได้ ยังมีอาการดีดดิ้นอยู่บ้างแต่ก็ยังอยู่ในการควบคุม ตัวจังหวะการคืนตัวของช็อคอับฯหน้าและหลังดูจะ “หนืด” น้อยไปหน่อยยามที่ต้องเจอเส้นทางที่มีเนินเยอะๆ การบังคับควบคุม  SCRAM 411 เหมือน Himalayan เลยมีตำแหน่งท่านั่ง การจับแอนด์ ที่วางเท้า ลงตัว ไม่ว่าการยืนโยกหรือการถ่ายเทน้ำหนักของผู้ขี่ก็ยังสามารถทำได้อย่างสะดวกและคล่องตัวดี


     สำหรับเจ้า SCRAM 411 ที่มาในรูปแบบที่สามารถรองรับการขี่ทั้งในรูปแบบใช้งานในเมืองหรือการท่องเที่ยวตามเส้นทางธรรมชาติได้อย่างสบายๆ สมรรถนะของตัวรถดี ขี่ง่าย ขี่สบาย วัสดุอุปกรณ์ตัวรถคุณภาพดีและยังดูดี กับราคาค่าตัวเริ่มต้นเพียง 175,900- ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Tags :

view