ทดลองขับ Civic e:HEV RS สปอร์ตซีดานขุมพลังฟูลไฮบริด

ทดลองขับ Civic e:HEV RS สปอร์ตซีดานขุมพลังฟูลไฮบริด

 


Civic e:HEV RS มาพร้อมการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี และรับประกันระบบ Hybrid ทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

      โดเด่นด้วย ไฟหน้า Full LED ไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้า LEDระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อดับเครื่องยนต์ไฟท้าย LED C Line กรอบโลโก้ H Mark ด้านหน้าและด้านหลัง ตกแต่งด้วยสีฟ้ากรอบกระจกหน้าต่าง ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมกระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัวกระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้ากระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถมือเปิดประตูภายนอกสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยโครเมียมเสาอากาศครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถสัญลักษณ์ e:HEV บริเวณฝากระโปรงท้ายCivic e:HEV จะมี Option ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น 1.5 Turbo คือล้ออัลลอย สีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ยาง ขนาด 235/40 ZR18กรอบโลโก้ H Mark ด้านหน้าและด้านหลัง ตกแต่งด้วยสีฟ้ากระจังหน้า ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมกรอบกระจกหน้าต่าง ตกแต่งด้วยแถบโครเมียมมือจับประตูสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยโครเมียมสัญลักษณ์ e:HEV บริเวณฝากระโปรงท้ายปลายท่อไอเสียฝั่งเดียวหน้าจอแสดงการทำงานของระบบ Hybrid (Energy Flow)ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังพับได้ 60 : 40 (เฉพาะรุ่น RS)พนักพิงศีรษะเบาะนั่งด้านหลัง ตำแหน่งกลางชุดปะยางฉุกเฉินเสียงเตือนคนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (AVAS)

      ภายในสปอร์ตและหรูหราด้วยมาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 10.2 นิ้วเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง และหนังสังเคราะห์ เดินตะเข็บด้ายสีแดงพนักพิงเบาะนั่งด้านหลังพับได้ 60 : 40กุญแจแบบการ์ด Honda Smart Key Cardระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Chargerระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zoneระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECTระบบนำทางผ่านดาวเทียม Navigation Systemแป้นคันเร่ง และแป้นเบรก แบบสปอร์ตไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและที่เท้า

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ Safety System & Driving Assistance มาอย่างครบๆ

      ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ระบบเสริมแรงเบรก EBD ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน ESS ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lockระบบล็อครถอัตโนมัติ Auto Door Lock by Speed ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatchระบบเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Attention Monitor ระบบ Honda SENSINGระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High-Beam ระบบเตือน และ ช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ RDM with LDM ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ LKAS ระบบเตือนการชนรถ และ คนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก CMBS ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมปรับความเร็วตามคันหน้า Adaptive Cruise Control ACC with LSF Low Speed Following ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ LCDN ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ด้านหน้า – ด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง  และกล้องมองภาพขณะถอยจอด ปรับมุมมอง 3 ระดับ

 

     ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์รหัส LFC2 เบนซิน 4 สูบ  DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 1,993 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81.0 x 96.7 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 141 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด Gasohol E20 ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร

    ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ Generator และมอเตอร์ขับเคลื่อน พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร ที่ 0-2,000 รอบ/นาที


ระบบฟูลไฮบริด e:HEV มี 3 รูปแบบการขับเคลื่อน ซึ่งระบบจะเลือกให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ 

     EV Drive Mode : รถจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้อัตราเร่งที่ดี ออกตัวรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ ระบบจะขับเคลื่อนด้วยโหมดนี้เมื่อใช้ความเร็วต่ำ-ปานกลาง อย่างเช่นการขับในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความจุมากขึ้น จึงขับในโหมด EV Drive ได้นานขึ้น

     Hybrid Drive Mode : ระบบจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว ให้อัตราเร่งที่ดี

     Engine Drive Mode : เมื่อใช้ความเร็วสูงคงที่ ระบบจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ ในโหมดนี้มอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ขับเคลื่อนล้อ

 

โหมดการขับขี่ Drive Mode 3 รูปแบบด้วยสวิตช์ที่คอนโซลเกียร์ ได้แก่

     ECON Mode : หรือโหมดการขับแบบประหยัด ปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับ เพื่อให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

     Normal Mode : หรือโหมดการขับแบบปกติ สำหรับการขับใช้งานโดยทั่วไป

     Sport Mode : หรือโหมดการขับแบบสปอร์ต ระบบจะตอบสนองคันเร่งรวดเร็วขึ้น เพิ่มความสนุกในการขับ


       ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง Gasohol E20 อัตราสิ้นเปลืองในเมือง ทำได้ 55.55 กิโลเมตร/ลิตร อัตราสิ้นเปลืองนอกเมือง ทำได้ 19.60 กิโลเมตร/ลิตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย (Combine) ทำได้ 25.64 กิโลเมตร/ลิตร อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 93 กรัม/กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ)


       ส่วนของการทดลองขับตัว Civic e:HEV RS ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งถือว่าทำได้ดี อัตราเร่งกระฉับกระเฉงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งจุดนี้ยอมรับว่าทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์สันดาปล้วน แถมยังช่วยไม่ให้เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงยามออกตัว เพราะช่วงนี้จะกินน้ำมันเยอะเป็นพิเศษ แถมยังสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าได้ระยะทางที่มากกว่ารถยนต์แบบไฮบริดทั่วๆไป ตัวรถอาจจะมีขนาดสัดส่วนที่ใหญ่โตขึ้นซึ่งทุก gen ก็ใหญ่ไปตามกาลเวลาอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เป้นปัญหาในการใช้งานบนถสสในเมือง สามารถมุดเปลี่ยนเลนได้อย่างคล่องแคล่วดี แม้แต่การจอดตามข้างทางหรือตามอาคารจอดรถก็ทำได้ดี ไม่ลำบากในการ "ดิ้น" จอด ซึ่งแม้ผู้ขับเป็นสาวๆก็ยังสบายมือ แต่ถ้าเป้นสาวๆขับใช้งานอาจจะลำบากนิดหน่อยตรงมุมมองภายในตัวรถเพราะตำแหน่งเบาะนั่งดูออกแบบมา "เตี้ย" ในแบบสปอร์ตมากไปนิดนึง เวลานั่งจะรู้สึกจมและต่ำไปสำหรับบางคน อีกทั้งการลุกและนั่งถ้าไขข้อไม่ค่อยดีอาจจะลำบากนิดนึง ซึ่งตัวรถเค้าออกแบบมาสไตล์สปอร์ตอยู่แล้วจุดนี้ต้องยอมรับให้ได้  


      ช่วงล่างยามโลดแล่นในเมืองถือว่ามีความนุ่มนวลในระดับนึง ไม่กระด้างและกระแทกมากอย่างที่คิด ถือว่าในเมืองสามารถขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายๆ โหมดการขับขี่ EV เมื่อใช้งานร่วมกับ ECON ด้วยจะทำให้การขับขี่มีความประหยัดสุงสุด ในเมืองสามารถได้อัตราการสิ้นเปลืองแถวๆ 18-19 กม./ลิตร ระดับนี้ก็ถือว่าน่าพอใจแล้วเมื่อเทียบกับรถขนาดตัวค่อนข้างใหญ่เครื่องยนต์ความจุเยอะระดับนี้ 


     ออกนอกเมืองรู้สึกได้เลยว่าเจ้า Civic e:HEV RS ขับแล้วมั่นใจ ตัวรถมีการทรงตัวที่มั่นคงและนิ่ง การบังคับควบคุมพวงมาลัยฉับไว ยามที่ต้องใช้ขับเดินทางไกลเจอลมแรงๆพัดตีมาด้านข้างหรือยามต้องวิ่งสวนกันรถบรรทุกใหญ่ๆก็ยังไม่ปัดเป๋แถมตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่ยังช่วยให้รู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษ ยามเร่งแซงตัวมอเตอร์ทำงานได้ฉับไวสร้างอัตราเร่งได้ดีเยี่ยมรู้สึกว่าทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์แบบธรรมดา ยิ่งถ้าใช้โหมด SPORT ด้วยยิ่งสร้างความเร้าใจได้อย่างสุดๆ ทั้งอัตราเร่งระดับหลังติดเยาะแถมสุ้มเสียงของเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่เร้าใจ การทำงานระบบเกียร์ที่ตัดต่อได้อย่างฉับไวเข้ากันกับการทำงานของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี 

      

       การทรงตัวยามความเร้วสูงๆจะมีอาการหน้าเบาเล็กน้อยตามประสารถยนตืขับล้อหน้า ยิ่งช่วงกดคันเร่งเพื่อเร่งแซงยิ่งมีอาการมากขึ้นไปอีกหน่อย ทำให้ต้องใช้สมาธิตรงจังหวะนี้มากนิดนึงแต่ก็ไม่ใช้ปัญหาอะไรใหญ่โตเพราะส่วนใหญ่รถยนต์ขับหน้าที่แรงๆก็มีอาการแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น ช่วงล่างยามที่ต้องวิ่งคามเร็วสูงถือว่ายังทำงานได้ดีไม่นุ่มนวลมากจนผู้ขับเครียดแต่ก็ไม่ได้แข็งหรือหนึบแน่นจนรู้สึกเหนื่อยเวลาขับใช้งานเป็นระยะทางหรือเวลานานๆ ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองยามเดินทางไกลด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนดสามารถทำได้อยู่แถวๆ 22-23 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าทำได้ดีเป็นที่น่าพอใจอย่างมากเลยทีเดียว 

       


Tags :

view