ทดลองขับ Honda City Hatchback e:HEV ในกิจกรรม “Honda e:HEV Series Press Trip” กรุงเทพฯ - อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ทดลองขับ Honda City Hatchback e:HEV ในกิจกรรม “Honda e:HEV Series Press Trip”  กรุงเทพฯ - อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

        บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญ“Speedxonline/SpeedxonairFM89.5” พร้อมสื่อมวลชนอื่นๆร่วมคาราวาน “Honda e:HEV Series Press Trip” เพื่อทดลองขับยนตรกรรมฟูลไฮบริด e:HEV ของฮอนด้ารวม 4 รุ่น ได้แก่ ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี และ ซิตี้ อี:เอชอีวี ที่ทั้งหมดมากับขุมพลังระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในยนตรกรรม e:HEV เส้นทางกรุงเทพฯ - อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รวมระยะทางกว่า 453 กิโลเมตร ซึงในครั้งนี้เราได้รับเจ้า Honda City Hatchback e:HEV มาเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้ แถมยังได้ทำความดีและเติมบุญให้กับชีวิตด้วยการบริจาคสิ่งของที่จำเป็นที่ โรงเรียนสอนคนตาบอดมกุฏคีรีวัน(เขาใหญ่) ต, ตำบล โป่งตาลอง อำเภอปากช่อง นครราชสีมา กันอีกด้วย


        สำหรับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV เป็นการผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟและช่วยชาร์จไฟโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มอบสมรรถนะการขับเคลื่อนที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจ



        อีกทั้งให้อัตราการประหยัดน้ำมันดี และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ  แถมยังสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่เพื่อให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และ โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) Honda รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร  และที่สำคัญคือเมื่อคำนวณแล้วจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ใกล้เคียงกับรถที่ใช้น้ำมันทั่วไป


        สำหรับ e:HEV Series ทุกรุ่นของ Honda ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING mujช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆคือ ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ที่ทั้งหมดสามารถใช้งานได้จริงและแม่นยำ


        สำหรับ Honda City Hatchback e:HEV ซิตี้คาร์แฮทช์แบ็กฟูลไฮบริด e:HEV ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน ด้วยดีไซน์สไตล์ RS รอบคัน เสริมเอกลักษณ์ยนตรกรรมไฮบริดด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ด้านท้าย

       Honda City Hatchback e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่สนุก แรงเกินคลาส ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 27 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น


        พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING พร้อมด้วยเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์กับเบาะนั่ง อัลตราซีท (ULTR) ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม

       สำหรับการทดลองขับเราเดินทางจากกรุงเทพฯมุ่งสู่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมากัน โดยช่วงแรกเริ่มจากแถวบางนาตอนเช้าที่สภาพการจราจรค่อนข้างคับคั่งเลยทีเดียว ตัวรถ City Hatchback e:HEV คันนี้ภายในกว้างขวางพอตัว นั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัดแต่ภายนอกถือว่ามีขนาดกระทัดรัดมุดผ่านการจราจรที่หนาแน่นได้อย่างคล่องตัวดี การบังคับควบคุมเบามือ สาวๆขับได้ไม่มีปัญหา การออกตัวด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าทำได้กระฉับกระเฉงดีมาก การชิงจังหวะการจราจรบนท้องถนนทำได้ดีเหนือกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างรู้สึกได้ การเร่งแซงมอเตอร์ไฟฟ้าก็ยังสามารถตอบสนองได้อย่างทันใจ แถมช่วงที่ต้องเค้นอัตราเร่งยามขึ้นทางชัน City Hatchback e:HEV ก็ยังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนได้อย่างไหลลื่น


        ออกนอกเมืองที่สามารถใช้ความเร็วเพิ่มขึ้นหน่อยแต่อยู่ในระดับคงที่ ตัวเครื่องยนต์จะติดขึ้นมาร่วมทำงานมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยทำให้การขึ้นขี่สามารถไต่ความเร็วสูงขึ้นได้อย่างทันใจ ช่วงล่างและระบบกันสะเมือนทำงานได้ดีพอตัว จากในเมืองที่ดูนุ่นนวลนั่งสบาย ยามที่ต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูงหน่อยก็ยังมั่นคงและมั่นใจ สามารถใช้เดินทางไกลท่องเที่ยวช่วงวันหยุดได้อย่างเคอะเขิน การเข้าโค้งถึงตัวรถจะดูไม่ใหญ่โตก็ยังมั่นคงพอตัว สามารถเข้าโค้งกว้างหรือแคบ ความเร็วสูงหรือความเร็วต่ำได้อย่างปลอดภัย ระบบเบรกนุ่มนวลดีในช่วงความเร็วต่ำ ช่วงความเร็วสูงหน่อยกดจังหวะแรกอาจจะรู้สึกหน่วงตัวรถได้น้อยไปนิด แต่พอเพิ่มแรงกดเบรกก็เริ่มรู้สึกถึงแรงเหน่วงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าคุ้นเคยเลยก็สามารถควบคุมจังหวะการเบรกได้อย่างดี


        ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองของเจ้า City Hatchback e:HEV ที่ได้ลองขับมาจะอยู่แถวๆ 24 กม./ลิตร ซึ่งถือว่า “น่าพอใจ” จากการใช้งานจริงที่ไม่ได้ปั้นตัวเลขแต่อย่างใด สุดท้ายต้องขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้จัดทริปและกิจกรรมดีๆอย่างนี้ครับผม




Tags :

view