ทดลองขับ XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD ในงาน “Volvo Recharge The Drive In You”

ทดลองขับ XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD ในงาน “Volvo Recharge The Drive In You”

 

          เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา วอลโว่จัดกิจกรรม “Volvo Driving Experience 2022” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Volvo Recharge The Drive In You” เพื่อให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์วอลโว่โมเดลใหม่ทุกรุ่น ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ฉลองความสำเร็จในการเติบโตของยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (Pure Electric) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง



           มร. คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“จากพันธกิจของเราในการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าแต่เพียงเท่านั้นให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อส่งมอบรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงและมีความปลอดภัยต่อผู้คนทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราจึงมุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ผ่านการพัฒนาทั้งทางด้านนวัตกรรมและการขับเคลื่อน เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ในการขับขี่ที่ดีที่สุด โดยกิจกรรมในวันนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมจะเกิดความประทับใจและมีความสุขในทุกการขับขี่รถยนต์วอลโว่ในทุกโมเดล”


           การจัดกิจกรรมรอบพิเศษครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ครั้งสำคัญของรถยนต์วอลโว่ประเภท เอสยูวี, สปอร์ตเอสเตท อเนกประสงค์ และซีดาน ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าและสื่อมวลชน โดยวอลโว่ได้ขนทัพรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Volvo XC40 Recharge Pure Electric – รถรุ่นแรกในตระกูลคอมแพ็กเอสยูวีของวอลโว่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100%, Volvo XC40 Recharge Plug-in Hybrid – คอมแพ็กเอสยูวีที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมการขับขี่ขั้นสูง, รถรุ่นอัพเกรด Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid เอสยูวีขนาดกลางระดับพรีเมียมที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 1,000,000 คันทั่วโลก, Volvo V60 Recharge Plug-in Hybrid – ยนตกรรมสไตล์สปอร์ตเอสเตท อเนกประสงค์ที่มาพร้อมนวัตกรรมและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ไร้คู่แข่ง, Volvo S60 Recharge Plug-in Hybrid และ Volvo S90 Recharge Plug-in Hybrid รถยนต์เจ้าของรางวัล “ซีดานขนาดกลางยอดเยี่ยม จากงาน 2019 Car of The Year Awards” และ Volvo XC90 Recharge Plug-in Hybrid ลักชัวรี่เอสยูวีรางวัลระดับโลกที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และดีไซน์สไตล์สแกนดิเนเวียนที่มอบความหรูหราในทุกรายละเอียด




       โดยไฮไลท์พิเศษภายในสนามทดสอบ ได้ออกแบบสถานีทดสอบที่มีความหลากหลายและท้าทาย เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของนวัตกรรม เครื่องยนต์ และ ฟีเจอร์ของรถยนต์วอลโว่ อาทิ ฐาน SUV Station การขับทดสอบรุ่นรถ Volvo XC60 Recharge Plug-in Hybrid และ Volvo XC90 Recharge Plug-in Hybrid ออกแบบให้เป็นฐานเนินสูงและต่ำ สลับกันซ้ายขวาเพื่อขับทดสอบช่วงล่างของรถยนต์ และยังมีฐานกึ่งตะแคง เพื่อทดสอบระบบการขับเคลื่อน


        สำหรับการทดลองขับทาง “Speedxonline” ได้เลือกเป็นตัว XC90 Recharge Plug-in Hybrid ซึ่งถือเป็นลุยท้อปสุดของค่าย โดย XC90 ที่วางจำหน่ายทั้งสามรุ่นทาง Volvo นำเสนอออปชั่นการตกแต่ง 3 Variant Strategy ได้แก่ Inscription, R-Design, และ Momentum โดยรุ่น XC90 เอสยูวี แบบ 5 ประตูระดับลักชั่วรี่มาพร้อมโลโก้ Iron Mark ดีไซน์ใหม่หรูหราและสวยงาม รูปลักษณ์ภายนอกโดดเด่นด้วยการตัดขอบสีโครเมียมทั้งด้านหน้าและหลัง ติดตั้งตะแกรงและกันชนชุบโครเมียม พร้อมล้อดีไซน์ Inscription ขนาด 20 นิ้วพร้อมระบบแจ้งเตือน ขณะถอยรถและระบบช่วยเบรก (Newly Cross Traffic Alert with Auto Brake) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้นขณะถอยรถ แม้ผู้ขับจะไม่ปฏิบัติตามการแจ้งเตือน ระบบก็ยังคงช่วยลดความเสี่ยงของการถอยชนให้เหลือน้อยที่สุด


         รวมถึงระบบถุงลมกันสะเทือน 4 มุม (4-Corner Air Suspension) และโครงแชสซีแบบ Four-C ซึ่งติดตั้งมาเป็นฟีเจอร์มาตรฐานทั้ง 3 รุ่น ทำให้ XC90 คือเครื่องการันตีที่สมบูรณ์แบบถึงความทุ่มเทของวอลโว่ ในการนำเสนอมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ขั้นสูงสุด ระบบป้องกันการชน City Safety ช่วยปกป้องผู้โดยสารที่อยู่ภายในและผู้คนภายนอกรถทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถรุ่น XC90 ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยคอยเผ้าระวังอันตราย โดยทำหน้าที่ตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน ผู้ขับขี่จักรยาน และสัตว์ขนาดใหญ่ คอยให้สัญญาณเตือนหากการชนกำลังจะเกิดขึ้น หากคุณไม่ตอบสนองตามสัญญาณ ระบบเบรกจะทำหน้าที่หยุดรถอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนหรือบรรเทาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีระบบรองรับการเลี้ยวที่ช่วยคุณหักเลี้ยวจากอันตรายข้างหน้าได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ


         กล้องมุมองแบบ 360˚ ช่วยหาที่จอดรถในมุมมองกว้างผ่านหน้าจอสัมผัส ให้คุณมองเห็นวัตถุหรือรถยนต์ที่มองเห็นยากเมื่อมองผ่านหน้าต่างหรือกระจก โดยเฉพาะในที่แคบ มุมองนี้มีให้ในความเร็ว 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง Park Assist Pilot หรือระบบช่วยในการจอดรถช่วยให้คุณจอดรถได้อย่างสมบูรณ์แบบตลอดเวลา ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจหาพื้นที่ว่าง และแจ้งเตือนเมื่อพบพื้นที่เพียงพอต่อการจอด และเลี้ยวเข้าที่จอดในทางขนานกับตัวรถด้วยระยะ 1.2 คูณด้วยขนาดของตัวรถ หรือที่จอดที่ตั้งฉากกับตัวรถ ง่ายมากเพียงดูจอ เหยียบคันเร่ง ใส่เกียร์ และเบรก เพราะพวงมาลัยจะหมุนเองอัตโนมัติ ส่วน Cross Traffic Alert หรือระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งมาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด ทำหน้าที่ช่วยช่วยระวังรถที่มาจากด้านหลัง

        ระบบปกป้องเมื่อเกิดการวิ่งตกถนนช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยโดยทำการตรวจจับหากอุบัตเหตุขับรถตกถนนกำลังจะเกิดขึ้นด้วยความเร็ว 65-140 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถใช้พวงมาลัยหรือเบรกเพื่อประคองรถไม่ให้รถตกถนนหากจำเป็น เมื่อรถตกถนน โครงสร้างดูดซับพลังานบริเวณเบาะที่นั่งด้านหน้าจะรองรับการกระแทกในแนวดิ่งเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บ


       ภายใน XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD มอบความหรูหราที่แสดงถึงสุนทรีภาพในงานออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนอันโด่งดังของวอลโว่ ซึ่งเห็นได้จากทุกองค์ประกอบ ทั้งหัวเกียร์คริสตัลเจียระไนและการตกแต่งด้วยไม้แอชรมดำ ภายในห้องโดยสารของ XC90 ยังออกแบบเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น นอกจากห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่แล้ว ยังมีห้องเก็บสัมภาระที่จุได้ถึง 1,868 ลิตร อีกทั้งผ่านการอัพเกรดด้วยระบบทำกรองอากาศขั้นสูง Advanced Air Cleaning (AAC) พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับและวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5, ระบบเสียงระดับโลกจาก Bowers &Wilkins Premium, แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย พร้อมติดตั้งระบบเสียง Bowers &Wilkins Premium และแท่นชาร์จไร้สายให้พร้อมในแพ็คเกจการตกแต่งมาตรฐาน

         การขับขี่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้ 3 โหมด เพื่อเปลี่ยนการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์อัตโนมัติ พวงมาลัย เบรก ระบบควบคุมการทรงตัว และปุ่มเปิด/ปิดเครื่องยนต์ โหมดเหล่ามี  Comfort, Dynamic, Eco, Off-road และ Individual

        XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD ยังติดตั้งแบตเตอรี่ Li-ion ขนาดความจุ 11.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ T8 Twin Engine สมรรถนะสูง กำลังเครื่องสูงสุด 407 แรงม้า ประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง 2.2 (เกณฑ์แบบรวม 100 กม./ลิตร)


        ส่วนระบบกันสั่นสะเทือนพร้อมด้วยแชสซี Four-C โดยระบบกันสั่นสะเทือนช่วยคงระดับความสูงของล้อทั้งสี่ข้างให้เท่ากัน เพื่อปรับให้เหมาะสมต่อสภาพการขับขี่ที่แตกต่าง Four-C คือระบบควบคุมปริมาณลมกึ่งไฟฟ้าที่เข้ามาแทนแผ่นปรับปริมาณลมดั้งเดิม ช่วยปรับการขับขี่บนท้องถนนในสภาพต่าง ๆ และสร้างสมดุลระหว่างความสะดวกสบายและการควบคุม

        สำหรับทดลองขับในสนามทดสอบแบ่งเป็น 7 สถานี โดยสถานีที่ 1 เป็นการทดลองขับในรูปแบบ “Slalom” เจ้า XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD รอบแรกใช้โหมดขับขี่ Hybrid ดูก่อน การขับสามารถขับผ่านการเลี้ยวสลับซ้าย-ขวาได้อย่างมั่นคง การบังคับควบคุมแม่นยำใช้ได้ ตัวรถมีอาการเอียงมากหน่อยตามสไตล์รถสูง แต่ก็ยังเอาอยู่สบาย พละกำลังเหลือเฟือการเร่ง-ผ่อนทำได้อย่างแม่นยำดีเยี่ยม ต่อด้วยสถานีที่ 2 “Acceleration” เราสามารถกดคันเร่งเพื่อลองอัตราเร่งของตัวรถได้อย่างเต็มที่ เริ่มกดคันเร่งเจ้า XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD ยังรู้สึกออกตัวอืดหน่อยในช่วงแรก พอผ่านช่วงแรกไปได้หน่อยจะรู้สึกถึงกำลังมหาศาลที่ดึงตัวรถไปข้างหน้า แรงม้าระดับ 400 ตัว ที่ 6,000 รอบต่อนาที กับแรงบิด 472 ปอนด์-ฟุต หรือ 640 นิวตัน-เมตร ที่ 2,200-5,400 รอบต่อนาที Direct Injected Turbo รวมกับกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอี 87 แรงม้า สามารถพาร่างที่หนักระดับ 2 ตันต้นๆ ไปได้อย่างสบายๆ


         สุดทางตรงก็ต้องลดความเร็วเพื่อเข้าสู่สถานี “Offroad” ซึ่งจัดมาเป็นพิเศษสำหรับ XC90 โดยเฉพาะ สภาพเส้นทางได้จำลองรูปแบบถนนที่สามารถเจอได้ในเส้นทางธรรมชาติอย่างหลุมบ่อ เนินสลับ หรือทางลาดเอียง  ก่อนลุยกันก็จัดการเปลี่ยนโหมดการขับขี่เป็น “off road” ซึ่งในโหมดนี้ช่วงล่างจะมีการปรับสูงขึ้นอัตโนมัติจากปกติประมาณ 40 มม.และยังปรับระบบกันสะเทือนให้ “แข็ง” ขึ้นอีกหน่อยด้วย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางที่ต้องเจอ ช่วงแรกเราต้องขับผ่านเนินสลับซ้าย-ขวา ด้วยช่วงล่างที่สูงขึ้น  XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD สามารถผ่านได้อย่างไม่มีการ “ครูด” หรือ “กระแทก” พละกำลังและแรงบิดเหลือเฟือเราไม่ต้องกดคันเร่งเลยเวลาผ่านแต่ละเนิน ตัวรถเคลื่อนไปอย่างช้าๆและมั่นคง การกระแทกยามผ่านเนินมีให้รู้สึกเยอะหน่อยจากช่วงล่างที่ปรับให้แข็งขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความมั่นคงและปลอดภัยจากการเสียหายของตัวรถ การบังคับควบคุมง่ายและเชื่องมือ ผู้ขับที่ไม่ค่อยชำนาญก็สามารถขับผ่านอุปสรรคได้อย่างสบาย


         ต่อด้วยเส้นทางที่ลาดเอียง XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD สามารถขับผ่านไปได้อย่างมั่นใจ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่กระจายกำลังได้อย่างลงตัว ช่วงล่างที่ปรับมาแล้วช่วยให้การทรงตัวมั่นคงปลอดภัยแม้ทางลาดเอียงระดับ 45 องศาก็ตาม สัดส่วนตัวรถกว้าง 2141 มม. ยาว 4ล953 มม. สูง 1,775 มม. ระยะฐานล้อ  2,984 มม. สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างคล่องตัวและไม่มีปัญหา ช่วงสุดท้ายของสถานีนี้ได้ลองขับบนเส้นทางขรุขระที่มีโค้งซ้ายขวา ตัวรถก็ยังขับผ่านไปได้อย่างมั่นคงและไม่มีปัญหา แต่ลองขับช่วงนี้ช่วงล่างในโหมด “off road”จะรู้สึกแข็งไปหน่อย จบสถานีนี้ก็ปรับโหมดการขับบขี่กลับตามปกติ ช่วงล่างก็จะปรับความสูงลงมาด้วยเช่นกัน

        ต่อด้วยสถานี “Emergency Brake & Swerving” เมื่อขับเจ้า XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD ไปถึงจุดอุปสรรคกีดขวาง ผู้ขับตัดสินใจไม่ทันที่จะควบคุมตัวรถจะทำการเบรกแล้วเลี้ยวให้อย่างอัตโนมัติ “หลบ” ได้อย่างปลอดภัย ต่อด้วยสถานี “Cornering” การขับเจ้าโค้งด้วยความเร็วสูง ตัวรถมั่นคงและควบคุมได้เชื่องมือ การเกาะถนนถือว่าเยี่ยม อัตราเร่งช่วงออกจากโค้งจังหวะแรกอาจจะดู “อืด” ไปหน่อยแต่พอถึงช่วงแรงบิดมาตัวรถก็พุ่งข้างหน้าอย่างหน้าพอใจ ต่อด้วยสถานี “Pilot Assist Lane Keeping” ตัวรถ XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD จะมีระบบช่วยควบคุมตัวรถให้ขับอยู่ในช่องทางอัตโนมัติ ซึ่งทดลองขับแล้วใช้งานได้จริงจนเกือบๆขับได้แบบอัตโนมัติแล้ว ตัวรถจะวิ่งอยู่ในช่องทางได้อย่างแม่นยำ การควบคุมตัวรถให้อยู่ในช่องทางก็ทำได้นุ่มนวลสมราคา สุดท้ายเป็นสถานี “Lane Change” ซึ่งจำลองอุปสรรคที่อาจต้องเจอบนท้องถนนที่ต้องบังคับควบคุมรถหลบและควบคุมรถกลับสู่เส้นทางเดิม ขับเข้าสู่สถานีนี้ด้วยความเร็วเกือบๆ 60 กม./ชม. เจอสิ่งกีดขวางก็บังคับพวงมาลัยหลบออกแล้วก็บังคับพวงมาลัยกลับสู่เส้นทางเดิม ตัวรถมีอาการโยนเล็กน้อยตามลักษณะของรถ แต่ก็สามารถควบคุมรถและเอาตัวรถผ่านไปได้อย่างสบายเป็นอันจบการทดลองขับรถแรก

        ส่วนในรอบที่สองก็วิ่งเส้นทางดิมอีกครั้งความนี้ลองโหมด power ดูบ้าง เมื่อลองขับผ่านสถานีต่างๆต่อยอมรับเลยว่าโหมดนี้สามารถให้พละกำลังและอัตราเร่งที่เร้าใจกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ช่วงล่างปรับให้ “firm” ขึ้นกว่าเดิม โดยรวมขับสนุกและขับมันมาก


       สำหรับ XC90 Recharge, Plug-in Hybrid T8 AWD รถยนต์แบบอเนกประสงค์ท้อปสุดของค่ายด้วยเครื่องยนต์ที่เล็กแต่พละกำลังไม่น้อยเมื่อบวกกับการปั่นช่วยของมอเตอร์ไฟฟ้าด้วยยิ่งทำให้ตัวรถใช้งานได้อย่างคล่องตัวและทันใจทุกการขับขี่ อุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มลำตามแบบฉบับของค่ายนี้ ภายในวัสดุคุณภาพและหรูหราไม่แพ้ค่ายอื่น กับค่าตัวระดับ 4 ล้านกลางๆก็ถือว่า “คุ้มค่า” ไม่น้อยเลย.....

 

Tags :

view