ทดลองขับ Toyota Camry 2.5 SPORT ตัวเริ่มที่จับต้องได้ง่าย

ทดลองขับ Toyota Camry 2.5 SPORT ตัวเริ่มที่จับต้องได้ง่าย


 

         ย้อนไปเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564  บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดตัว New CAMRY อย่างเป็นทางการ มีทั้งรุ่น รุ่น 2.5 HEV Premium Luxury รุ่น 2.5 HEV Premium ที่อยุ่ในกลุ่มไฮบริด และรุ่น 2.5 Premium และรุ่น 2.5 Sport ที่อยู่ในกลุ่มเครื่องยนต์เบนซิน และในครั้งนี้เรา “Speedxonline/SpeedxonairFM89.5” ก็ได้มีโอกาสทดลองขับเจ้า New CAMRY ใหม่กัน โดยเราเลือกทดลองขับในรุ่น 2.5 SPORT ที่ดูหรูหราและพรีเมี่ยมแต่ราคาย่อมเยาว์จับต้องง่าย เหมาะสำหรับพ่อบ้านหรือนักธุรกิจที่ยังชอบขับรถด้วยตัวเอง


         สำหรับรุ่นเริ่มต้น Camry 2.5 SPORT ราคาค่าตัวจะอยู่ที่ 1,475,000 บาท จัดอยู่ในรถยนต์นั่งในกลุ่ม D-Segment ที่ในท้องตลาดดูจะเหลือตัวเลือกให้ใช้งานไม่กี่รุ่นแล้ว ภายนอกของเจ้า Camry 2.5 SPORT ไฟหน้า LED พร้อม LED Day Time Running Lights ไฟตัดหมอกหน้า LED เมิ่รวมกับกระจังและกันชนที่ลดการประดับ “โครเมี่ยม” ก็ยังดูหรูหราอยู่ไม่น้อย กระจกหน้า AC HSEA (Acoustic High Solar Energy Absorb) ลดเสียงรบกวนและป้องกันแสงแดด ส่วนเส้นสายด้านข้างโฉบเฉี่ยวทันสมัยเช่นเดียวกันทุกรุ่นในตระกูล ตัวไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างเป็นแบบ LED ปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัต และฟังค์ชั่น Reverse Link ส่วนล้อจะเป็นขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ที่สีสันและลวดลายดู “ธรรมดา” ไปหน่อย


         ด้านท้ายดีไซน์สไตล์ Toyota ดี ตัวไฟท้ายเป็น LED พร้อมไฟตัดหมอกหลังและ ไฟเบรกดวงที่ 3 สุดท้ายเติมเต็มด้วยท่อไอเสียคู่ดูสปอร์ตเต็มพิกัด ส่วนฝาท้ายยังเป็นแบบเปิดปิดด้วยมือซึ่งก็เบาแรงและทันใจยามใช้งานแบบเร่งด่วน มิติตัวรถมีความยาว 4,885 มิลลิเมตร กว้าง 1,840 มิลลิเมตร สูง 1,445 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุด 140 มิลลิเมตร


         เปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยสาร Camry 2.5 SPORT ด้วยระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Push Start and Smart Entry) การออกแบบภายในจะมาในโทนสีดำดุดัน ส่วนที่เป็นโครเมี่ยมมีน้อยจุด เบาะนั่งก็เป็นสีดำสนิททั้งหมด ส่งผลให้ภาพรวมดูสปอร์ตและเร้าใจไม่น้อย วัสดุหุ้มเบาะเป็นหนังแท้และวัสดุสังเคราะห์ ตัวเบาะนั่งคนขับด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า (Lumbar Support) ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 7 นิ้ว ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ พวงมาลัยหุ้มหนังทรงสปอร์ต พร้มปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย ขวาเป็นปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) แต่รุ่นนี้ไม่มีระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยมาให้นะ ส่วนที่ปัดน้ำฝนแบบตั้งเวลาหน่วง พร้อมระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ (Electro Chromic)


        คอนโซลหน้าออกแบบให้เอนเข้าหาผู้ขับเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ด้านบนสุดเป็นจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ Apple CarPlay และ Android Auto และลำโพง 6 จุดช่องเชื่อมต่อ USB หน้า 1 จุด และหลัง 2 จุด ยังมีระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)มาด้วย  

         ถัดมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย, ขวา) จัดวางปุ่มควบคุมให้ใช้งานได้สะดวก ถัดลงมาอีกเป็นที่อยู่ของอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ที่วางแก้วน้ำ คันเกียร์ และ เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่พ่วงมาด้วยระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) ให้ใช้งานได้ควบคู่กัน


         ด้านหลังตัวเบาะนั่งออกแบบได้หรูหราพร้อมที่วางแขนและที่วางแก้วน้ำ สบายทุกการเดินทางด้วยม่านบังแดดผู้โดยสารด้านหลังที่กระจกหลังปรับไฟฟ้า แต่การควบคุมการใช้งานดู “ลึก” ไปหน่อยเพราะต้องเข้าไปสั่งงานที่เมนูหน้าจอคนขับเลยทีดียว ส่วนม่านบังแดดด้านข้างตรงประตูหลังอันนี้เป็นแบบดึงใช้งานธรรมดาซึ่งก็สะดกวดีเหมือนกัน


         ระบบความปลอดภัยของ Camry 2.5 SPORT ก็มีมาให้ใช้งานไม่ใช่น้อยถึงแม้จะเป็นตัวเริ่มต้นก็ตาม อย่าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Brake System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control) เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า 2 จุด, ด้านหลัง 3 จุด ถุงลมระบบ SRS คู่หน้า ด้านข้าง ม่านด้านข้าง และส่วนหัวเข่าด้านคนขับ


        แถมยังมีระบบความปลอดภัยอย่างระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนลมยาง TPMSสัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้า 2 จุด และที่มุมกันชน 4 จุด กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อมแนะนำเส้นทางการถอย ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) และสุดท้ายสัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal) ดูรวมๆแล้วทั้งหมดก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้า Camry 2.5 SPORT ปลอดภัยทุกกว่าเดินทางแล้ว


         สำหรับขุมพลัง Camry 2.5 SPORT เครื่องยนต์เบนซินรหัส A25A-FKB ที่ได้รับการปรับจูนมาใหม่ให้ทำงานได้ดีขึ้น มีขนาดความจุ 2.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว D-4S ระบบวาล์วแปรผัน  VVT-iE กำลังสูงสุด 154 กิโลวัตต์ (209 แรงม้า) ที่ 6,600 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที  ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รองรับแก๊สโซฮอล์ได้สูงสุดถึง E85 ถังน้ำมันจุ 60 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน(ทางโรงงานแจ้งมา) 15.6 กิโลเมตร/ ลิตร


            ช่วงทดลองขับจริง เมื่อลองเข้าไปนั่งตำแหน่งคนขับของเจ้า Camry 2.5 SPORT จะรู้สึกได้เลยว่ารถคันนี้ออกแบบมาให้เหมาะกับที่เจ้าของรถขับใช้งานเองเสียมากกว่านั่งด้านหลัง ตำแหน่งท่านั่งหรือการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆมัน “เอื้อ” สำหรับตำแหน่งผู้ขับจริงๆ พวงมาลัยทรงสปอร์ตจับกระชับ เบาะนั่งหนังแท้ทรงสวยและโอบเข้ากับร่ากายได้ดี ทัศนวิสัยโดยรอบโปร่งและชัดเจนทุกมุมมอง ส่วนของปุ่มควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆดูจะลดลงจนเหลือให้ใช้งานไม่มากนักซึ่งดูแล้วไม่ “รก” ดีเหมือนกัน  เข้าเกิยร์เดินหน้าและกดคันเร่งเพื่อออกเดินทางรู้สึกถึงความกระฉับกระเฉงของตัวรถดี ออกตัวง่ายไม่ต้องกดคันเร่งมากนัก การทำงานของเกียร์ฉับไวดี เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างนุ่มนวล น้ำหนักพวงมาลัยเบาแรง บังคับควบคุมได้ง่าย อาจจะเป็นเพราะล้อและยางขนาดเล็กกว่าตัวท้อปก็เลยรู้สึกเบาแรงกว่า....ก็เป็นได้


            อัตราเร่งแซงทำได้ดีตามสไตล์เครื่องความจุสูงหน่อย กำลังถูกส่งมาได้อย่างต่อเนื่องไม่ต้องรอรอบมากนัก เครื่องยนต์แบบไม่พึ่งเทอร์โบแต่มีระบบวาล์วแปรผันมาช่วยก็ทำให้ได้อัตราเร่งช่วงต้นและกลางทันใจไม่น้อย ระบบเกียร์การขับใช้งานมีตำแหน่ง +/- ให้เลือกใช้ตามความต้องการของผู้ขับด้วย แต่ด้วยเป็นรุ่นเริ่มต้นเลยไม่มีปุ่ม Paddle Shift มาให้ใช้งานซึ่งน่าเสียดายมาก การบังคับควบคุมช่วงใช้งามเร็วสูงหน่อยยังถิอว่าเบาแรงและเอาอยู่ เข้าโค้งก็สามารถควบคุมตัวรถได้อย่างมั่นคง ขับง่ายแม้บางครั้ง “แม่บ้าน” จะเอาไปขับใช้งานบ้างก็ตาม ช่วงล่างระบบช่วงล่างหน้า “อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท” หลัง “อิสระแบบปีกนกคู่” ปรับเซ็ทมาได้อย่างนุ่มนวลเป็นหลัก ผู้โดยสารนั่งสบายไม่เหนื่อยแม้ยามใช้งานในเมืองหรือยามเดินทางไกล ระบบเบรกช่วงความเร็วต่ำรู้สึกทำงานได้ดี สามารถชะลอความเร็วทำได้ตามน้ำหนักเท้าที่กด ส่วนช่วงใช้งานยามความเร็วสูงก็ยังสร้างความมั่นใจทุกครั้งยามเบรก การหน่วงให้ความเร็วลดลงก็ยังทำได้อย่างดี


            หนีไปทดลองนั่งด้านหลังบ้าง เจ้า Camry 2.5 SPORT  ถึงแม้จะไม่มีฟังค์ชั่นอะไรมากมายแต่ตัวเบาะยั่งก็ออกแบบได้ค่อนข้างดี ทั้งความแข็งและส่วนที่รองรับร่างกาย และองศาช่วงเอนของที่พิงหลังก็กำลังดีไม่ชันหรือเอนนอนจนเกินไป ตรงกลางมีที่วางแขนก็มีระดับความสูงที่พอดี ม่านบังแดดกระจกด้านหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าซึ่งต้องให้ผู้ขับเข้าไปในเมนูคำสั่งที่หน้าปัดสั่งงานจะดูเหมือน “ลึก” ไปหน่อยเมื่อใช้งานจริง หน้าต่างด้านข้างก็มีม่านบังแดดที่ต้อง “ดึง” มาใช้งานเอง แต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก สุดท้ายลองใช้งานทั้งขับทั้งนั่ง Camry 2.5 SPORT คันนี้ในช่วงเวลาสั้นๆ ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสามารถทำได้ 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งดูแล้วก็อยู่ในระดับที่ “รับได้” นะครับ

 

 

 

 

Tags :

view