ทดลองขับ&ทดลองนั่ง HYUNDAI STARIA SEL รถยนต์เอนกประสงค์นิยามใหม่

ทดลองขับ&ทดลองนั่ง HYUNDAI STARIA SEL รถยนต์เอนกประสงค์นิยามใหม่



        หลังจากที่บริษัท ฮุนได ฯ ได้เปิดตัวและแนะนำรถยนต์ฮุนไดรุ่น สตาร์เรีย ออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นของไตรมาสที่ 3 บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็ได้จัดการทดลองขับรถยนต์ฮุนได สตาร์เรีย ให้กับทีมงาน ”Speedxonline/SpeedxonairFN89.5” บนเส้นทางกรุงเทพ – กาญจนบุรี รวมระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ MPV Redefined นิยามใหม่ของรถยนต์เอนกประสงค์ โดยเราจะได้ทดลองขับ&ทดลองนั่ง  HYUNDAI STARIA SEL ซึ่งเป็นตัวท้อปสุดกัน



         HYUNDAI STARIA SEL คือ รถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคทุกรูปแบบ เพราะได้นำขั้นตอนการออกแบบที่เริ่มจากภายในสู่ภายนอก เน้นการตอบโจทย์ของกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้เป็นหลัก ส่วนภายนอกเป็นการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงที่กำลังส่องสว่างสาดโค้งจากเส้นขอบฟ้าของโลกเมื่อมองลงมาจากอวกาศ  ดูแปลกตาและล้ำยุคสะกดทุกสายตาทุกเส้นทาง ไฟหน้าแบบ LED มัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ด้านข้างดีไซน์สวยแตกต่างจาก “รถตู้” แถมยังลู่ลมและลดแรงเสียดทานได้ดี ประตูสไลด์ไฟฟ้าสองข้างพร้อมระบบ Smart ที่สามารถสั่งงานด้วยรีโมทและเปิดให้อัตโนมัติยามเข้าไปอยู่ใกล้ๆ พร้อมกระจกหน้าต่าง Flush Glass ที่ประตูสไลด์



          ด้านท้ายโดดเด่นเหนือใครด้วยโคมไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED ส่วนสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เช่นกัน ประตูท้ายไฟฟ้าด้วยระบบ Smart  อีกด้วย ขนาดสัดส่วน ความยาว. 5,253 มม. ความกว้าง 1,997 มม. ความสูง 1,990 มม. ความยาวฐานล้อ 3,273 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้า 1,721 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหลัง 1,732 มม.ระดับต่ำสุดจากพื้น 186 มม.ปริมาตรถังน้ำมัน 75 ลิตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.97 ม.

         เปิดประตูสไลด์สู่ภายในห้องโดยสาร HYUNDAI STARIA SEL เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 11 ที่นั่ง มีให้เลือกใน 2 รุ่น สีภายนอก 3 สีคือ - สีดำ เอบิส แบล็ค สีเทา สตีล กราไฟต์ และสีเงิน ชิมเมอร์ริ่ง ซิลเวอร์ สีภายในมีให้เลือก 2 สีคือ สีดำ-เบจ และสีดำ และคันของเราได้เป็นสีภายในดำสนิท ตัวเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังแท้ ปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตามที่ต้องการ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอิสระหน้า-หลัง ม่านบังแดดสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V และที่ชาร์จไฟแบบ USB



          ในส่วนชองผู้ขับตัวที่นั่งเป็นแบบปรับด้วยไฟฟ้าได้อย่างอิสระ 12 ทิศทาง พร้อมฟังค์ชั่นปรับดันหลังด้วยไฟฟ้า หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD ขนาด 10.25” แสดงผลได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน แผงคอนโซลตกแต่งด้วยลายตะเข็บพิเศษ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบปุ่มกด Shift-by-Wire พวงมาลัยหุ้มหนังแม้ ปรับระดับ สูง-ต่ำ เข้า-ออก ได้ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยและแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shifter ที่พวงมาลัย เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)

          ตรงกลางคอนโซลหน้าทรงสวย เด่นด้วยจอตรงกลางพร้อมระบบเครื่องเสียงหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมรองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย และตัวจอยังทำงานแสดงผลร่วมกับกล้องมองหลังแสดงภาพขณะถอยจอด (Back Camera) และกล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)อีกด้วย ช่อง USB ต่ออุปกรณ์มัลติมีเดียและระบบเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารไร้สาย Bluetooth จำนวนลำโพง 6 ตำแหน่ง  



          ส่วนระบบความปลอดภัย HYUNDAI STARIA SEL ก็จัดมาเต็ม อย่าง ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Forward Collision Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind-Spot Collision-Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Rear Cross-traffic Collision Avoidance Assist ระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่  Driving Attention Warning ระบบป้องกันการออกจากรถเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจากฮุนได โดยสัญญาณเตือนจะดังขึ้นเพื่อป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถอีกคันกำลังวิ่งผ่าน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Following Assist ระบบแจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert

          HYUNDAI STARIA SEL มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.2 ลิตร กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่  3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร ที่ 1,500 - 2,500 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 4 เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบ Multi-link ระบบเบรกเป็นดิสทั้ง 4 ล้อ และรุ่นท้อป SEL จะมากับล้อขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 235/55 R18 เท่ากันทั้ง 4 ล้อ



         เริ่มการทดลองขับเริ่มแรกเห้นหน้าตาเจ้า HYUNDAI STARIA SEL แล้วต้องยอมรับเลยว่าทาง HYUNDAI ออกแบบมาได้อย่างโฉบเฉี่ยวและล้ำสมัยมาก ดีไซน์แตกต่างจากหลายๆรุ่นในท้องตลาดอย่างชัดเจน  ลักษณะตัวรถเหมาะกับการใช้งานในครอบครัวยุคใหม่ พ่อบ้านหรือแม่บ้านสามารถขับใช้งานเองได้อย่างสบายใจ ประตูด้านผู้โดยสารตอนหลังเป้นแบบสไลด์ทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา ถือว่าสะดวกมากยามใช้งาน ตำแหน่งผู้ขับจัดว่าเบาะนั่งได้ออกแบบมาเป็นรถนั่งมากขึ้นไม่เหมือนสไตล์รถตู้อย่าง H1 ตัวเบาะปรับด้วยไฟฟ้าอย่างอิสระแถมมีดันหลังไฟฟ้ามาด้วย นั่งขับใช้งานเดินทางไกลๆค่อนข้างสบายไม่เมื่อยล้า ตำแหน่งทัศนวิสัยรบคันถือว่า “โปร่ง” ชัดเจนทุกมุมมอง มุมอับสายตามีน้อยเพราะเจ้า HYUNDAI STARIA SEL ออกแบบให้กระจกหน้าต่างมีพื้นที่ที่มาก การจัดวางอุปกรณ์ต่างค่อนข้างดี ตำแหน่งใช้งานได้ง่าย เกียร์อัตโนมัติเวลาใช้งานเป็นปุ่มกดซึ่งถือว่าสะดวกดีแม้ลองใช้ช่วงแรกอาจจะไม่ค่อยคุ้นชิน


          ระบบปรับอากาศแผงควบคุมก็ใช้งานได้ง่ายแยกการทำงานระหว่างผู้โดยสารตอนหน้ากับหลังอย่างชัดเจน  เริ่มการทดลองขับ กดปุ่มเกียร์ตำแหน่ง D กดคันเร่งตัวรถก็เคลื่อนไปด้านหน้าอย่างนุ่มนวลดี ถือว่าออกตัวได้อย่างทันใจไม่เลว การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลมาก รอยต่อการทำงานของเกียร์มีให้รู้สึกบางเบาดี ช่วยส่งเสริมอัตราเร่งให้ต่อเนื่อง เร่งแซงได้ดังใจแม้น้ำหนักตัวระดับ 2 ตัน ก็ตาม การเร่งแซงตามสภาพการจราจรปกติช่วงจังหวะแรกของการกดคันเร่งอาจดูอืดไปหน่อยแต่พอช่วงกลางๆถึงช่วงปลายกำลังก็ออกมาให้ใช้งานได้อย่างน่าพอใจ ช่วงความเร็วสูงอัตราเร่งอาจจะไม่ฉูดฉาดแต่ก็ไต่ขึ้นไปได้อย่างเรื่อยๆ พอมาเปลี่ยนโหมดการขับขี่มา SPORT ก็รู้สึกได้เลยถึงการตอบสนองของคันเร่งที่กระฉับกระเฉงขึ้น เรียกรอบมาได้เร็วขึ้น ส่งผลให้การออกตัวหรือการเร่งแซงทำได้อย่างทันใจขึ้นกว่าโหมดอื่นอย่างรู้สึกได้


          ช่วงล่างรู้สึกแน่นและหนึบกว่ารุ่น H1 อย่างรู้สึกได้ การขับใช้งานในเมืองไม่กระด้างและนุ่มนวลกำลังดี ยามเดินทางไกลก็รู้สึกเกาะถนนและมั่นคง ตอนเข้าโค้งยังถือว่าเชื่องมือและควบคุมรถได้ง่าย ตัวรถมีการเอียงน้อยมากผู้โดยสารตอนหลังแจ้งมาว่าไม่มีอาการโคลงให้เวียนหัวเลย แต่บางช่วงที่ต้องลงคอสะพานดุๆช่วงท้ายจะมีอาการ “เด้ง” เล็กๆให้รู้สึกบ้างแต่ตัวรถก็ไม่ได้มีเสียการทรงตัวแต่อย่างใด พอถึงบางช่วงการจราจรบนท้องถนนพอเหมาะเราก็ลองระบบตัวช่วยการขับขี่อย่าง ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ยิ่งเมื่อทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ผู้ขับแทบจะไม่ต้องจับพวงมาลัยควบคุมรถเลยทีเดียว การทำงานถือว่าแม่นยำและนุ่มนวลมาก ตัวรถจะวิ่งอยู่ในเส้นทางอย่างปลอดภัยเลยทีเดียว


         ลองกระโดดไปนั่งเป้นผู้โดยสารตอนหลังบ้าง ตำแหน่งการออกแบบที่นั่งถือว่า “ดี” นั่งสบาย อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้อย่างหลากหลายตามที่ต้องการ อาการโคลงของตัวรถยามเข้าโค้งถือว่าน้อยมาก การสั่นสะเทือนมีส่งมาให้รู้สึกบ้างแต่ถือว่าช่วงล่างด้านหลังได้ปรับเซ็ทมาครบคลุมการใช้งานได้เป็นอย่างดี สุดท้ายอัตราการสิ้นเปลืองสำหรับการเดินทางไป-กลับเกือบๆ 600 กม. สามารถทำตัวเลขได้แถวๆ 14.8 กม./ลิตร

Tags :

view