ลอง “ลุย” สไตล์ออฟโรดกับ “Ford Ranger FX4 Max”

ลอง “ลุย” สไตล์ออฟโรดกับ “Ford Ranger FX4 Max”



         เมื่อไม่นานมานี้เปิดตัวให้เห็นแบบตัวเป็นๆไปแล้วสำหรับเจ้า Ford Ranger FX4 Max มาถึงช่วงจังหวะที่ดี ทาง ฟอร์ด ประเทศไทย ก็ได้เชิญ “ทีมงาน Speedxonline/onairFM89.5” มาร่วมทดลองขับและพิสูจน์สมรรถนะกัน ณ สนามออฟโรดที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถกระบะรุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้จากฟอร์ด แถมท้ายยังได้ลองขับขี่บนถนนจริงที่มีทั้งทางเรียบและทางขรุขระอีกด้วย  


        ช่วงแรกเป็นการต้อนรับโดยผู้บริหารฟอร์ด ณ สนามออฟโรดพร้อมรับฟังบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์ การออกแบบและเทคโนโลยีของ Ford Ranger FX4 Max  ซึ่งรถรุ่นนี้ของ Ford เป็นรถรุ่นพิเศษที่แต่งเสร็จมาจากโรงงาน ส่วนของภายนอกโดดเด่นด้วยอุปกรณ์พิเศษอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น เริ่มจากกระจังหน้า F-O-R-D ขนาดใหญ่ การตกแต่งด้วยสีเทาโบลเดอร์เกรย์ ทั้งกระจังหน้า กันชนหน้าและหลัง ฝาครอบระบายอากาศ กระจกมองข้างสีเทา รวมถึงมือจับประตู ไฟหน้าแบบ LED โปรเจกเตอร์ พร้อมไฟวิ่ง LED DTRL ไฟตัดหมอกหน้า ซุ้มล้อแบบใหม่ เฉพาะรุ่น FX4 Max ทั้งหน้าและหลัง บันไดข้างโลหะสีดำแบบออฟโรดพร้อมผิวกันลื่น โรลบาร์สีดำด้าน


        ภายในห้องโดยสารในหุ้มหนังสีดำ ทั้งหน้าปัด ประตู พวงมาลัย และแผงควบคุมด้านหน้ารวมถึงรอบจอแสดงผล ตัวเบาะนั่งเป็นหนัง วัสดุ Alcantara และหนังสังเคราะห์กำมะหยี่ ปักเป็นโลโก้ FX4 Max ลายคาร์บอน โดยเบาะนั่งคนขับปรับตำแหน่งได้ 6 ทิศทาง และปรับเบาะนั่งผู้โดยสารได้ 4 ทิศทาง คันเร่งแบบสปอร์ต (เช่นเดียวกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์) ชุดผ้ายางปูพื้นทุกตำแหน่ง พร้อมอุปกรณ์สำหรับออฟโรดครบครันอย่าง สวิทช์แบงค์ พร้อมช่องต่อ AUX 6 ตำแหน่งอยู่เหนือหน้าจอสีแบบสัมผัส สำหรับควบคุมรอก ไฟไลท์บาร์ และอุปกรณ์เพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการเดินทางแบบออฟโรด ไดชาร์จ ขนาด 250A สำหรับรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ


        อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆก็มีมา อย่าง กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) กระจกไฟฟ้าพร้อมเปิด-ปิด สัมผัสเดียวและป้องกันการหนีบด้านคนขับ กระจกด้านหลังปรับไฟฟ้า จอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์ขนาด 4.2 นิ้ว ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC3 ภาษาไทย บนจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง มีระบบเชื่อมต่อบลูทูธ รองรับ Apple CarPlay สามารถควบคุมเครื่องเสียงด้วยสวิตช์บนพวงมาลัย


       อุปกรณ์สำหรับความปลอดภัยมาก็ “เพียบ” ตามสไตล์ Ford อย่าง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดสำหรับผู้โดยสารแถวหลังทั้ง 3 ที่นั่ง พร้อมพนักพิงศีรษะ จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก ระบบกุญแจนิรภัย พร้อมสัญญาณกันขโมย และระบบกุญแจ My Key สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง แผงไล่ฝ้ากระจกหลัง ไฟเบรกดวงที่สาม ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-Lock Braking System – ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake force Distribution – EBD) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program – ESP) และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll Over Mitigation)


        Ranger FX4 Max  มาพร้อมขุมพลังบล็อกเดียวกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา ให้พละกำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นพร้อม FOX Shock แบบโมโนทิวบ์ และเหล็กกันโคลง ขนาด 29 มม. ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบแหนบซ้อน พร้อม FOX Shock แบบมีซับแทงค์แยก ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีโบลเดอร์เกรย์ ลายใหม่ กับยางออลเทอร์เรนขนาด 265/70 R17 เท่ากันทั้ง 4 ล้อ


        ในส่วนของการทดลองขับในสนามออฟโรดจะมีทั้งหมด 8 สถานีด้วยกัน ซึ่งถือว่าจำลองอุปสรรคที่จะต้องเจอในในการขับขี่บนเส้นทางธรรมชาติมารวมไว้ทั้งหมด เริ่มจากสถานีที่ 1 “เนินลงชัน” อันนี้เราจะอยู่ในตำแหน่งระบบขับเคลื่อน 4L เมื่อขับไปได้สักหน่อนก็จัต้องลงเนินที่มีความชันมากๆ เราสามารถกดปุ่มระบบ Hill Descent Control ให้ทำงาน ระบบจะช่วยให้ตัวรถเคลื่อนลงจากเนินชันอย่างช้าๆและปลอดภัย ซึ่งถ้าเคลื่อนตัวช้าเกินไปก็สามารถเพิ่มความเร็วได้อีกนิดหน่อยโดยกดที่ปุ่มบนพวงมาลัย แต่ก็ไม่เกิน 8 กม./ชม. เท่านั้นนะ หลังจากลงเนินชันเรียบร้อยก็ขับเลี้ยวขวาไปตามโค้งกว้างๆเพื่อเข้าสู่สถานีที่ 2 “สลาลม” ซึ่งสถานีนี้เราจะเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนมาเป็น 2 ล้อ หรือ 2H กัน การขับเข้าโค้งสลับซ้าย-ขวาในสภาพพื้นผิวที่ลื่นเจ้า Ranger FX4 Max ก็ยังสามารถบังคับควบคุมให้ผ่านได้อย่างสบายๆ มีอาการลื่นไถลน้อยมาก เพราะมี ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program หรือ ESP ช่วยด้วย พละกำลังในการเร่งออกตัวทำได้ดีและต่อเนื่องดีมาก แม้นทางลื่นๆระบบขับเคลื่อนเพียง 2 ล้อก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยดีเหมือนกัน


         สถานีที่ 3 “เนินสลับ” จุดนี้เราต้องขับเข้า Ranger FX4 Max ผ่านเนินที่จัดวางสลับซ้าย-ขวากัน ซึ่งถ้ารถที่ไม่มีระบบส่งกำลังและระบบช่วงล่างที่ดีจริงมักจะผ่านไปได้อย่างลำบาก แต่สำหรับ   Ranger FX4 Max  คันนี้มีตัวช่วยดีๆที่ทำให้สามารถผ่านไปได้อย่างไม่ลำบากเลยอย่างตำแหน่งระบบขับเคลื่อน 4L และ ระบบ “Locking rear differential “ ที่ช่วยให้พละกำลังทั้งหมด “ดัน” ให้ตัวรถผ่านเนินสลับไปได้อย่างเนียนๆ และ ระบบช่วงล่างทีมีเจ้า FOX Shock มาช่วยให้เกาะสภาพเส้นทางได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ ต่อด้วย “ร่องเอียง” ซึ่งเป็นสถานีที่ 4 จุดนี้สภาพเส้นทางจะมีความเอียง (Ground clearance) ของ Ranger FX4 Max ที่ยกสูงจากพื้นถนนมากถึง 256 มม. ช่วยให้การปีนร่องเอียงเป็นไปได้อย่างสบาย ยามลุยหนักๆไมมีอะไรเสียหายแน่นอน ระบบส่งกำลังระดับ 10 สปีด พร้อมปรับระบบขับเคลื่อนเป็น 4H ช่วยให้การการเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและนุ่มนวล ไม่มีการกระตุกให้เสียจังหวะ ระบบพวงมาลัยที่แม่นยำและเบาแรงช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดาย


         สภานีที่ 5 และสถานีที่ 6 “เนินขึ้น-ลง” จะต่อเนื่องกัน โดยสภาพเส้นทางจะตัวขับขึ้นเนินที่สุงชันมาก ระบบขับเคลื่อนเปลี่ยนเป็น 4L พร้อมเปิดใช้งาน ระบบ “Locking rear differential “ ช่วยให้ Ranger FX4 Max สามารถขับข้ามเนินสูงชันทั้ง 2 เนินติดกันได้อย่างปลอดภัย ต่อด้วยสถานีที่ 7 “เนินขึ้น-เอียง”  เราปรับเปลี่ยนมาใช้ 4H ที่ช่วยให้การขับขึ้นเนินที่ไม่ชันมากเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งตัวรถก็สามารถ “ขึ้น” ได้อย่างต่อเนื่องจากกำลังของรถระดับ 213 แรงม้า บวกกับแรงบิดระดับ 500 นิวตันเมตร เลยไม่ใช่ปัญหา สุดท้ายของการขับขี่ในสนามออฟโรด สถานีที่ 7 “เนินลงทางชัน” จุดนี้สภาพเส้นทางเราจะต้องขับรถลงเนินที่มีระดับความชันค่อนข้างมาก เลยต้องใช้ตำแหน่ง 4L พร้อมเปิดระบบ Hill Descent Control แค่นี้เพียงแค่ประคองพวงมาลัยให้รถอยู่บนเส้นทางก็สามารถขับถึงจุดหมายได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยแล้ว  


        สุดท้ายเรายังได้ลองขับเจ้า Ranger FX4 Max บนเส้นทางถนนจริงกัน โดยสภาพเส้นทางจะมีทั้งทางเรียบและทางขรุขระจากสภาพถนนที่ชำรุด ช่วงแรกขับออกตัวบนทางที่ค่อนข้างเรียบยอมรับเลยว่าอัตราเร่งช่วงต้นดีมาก การตอบสนองคันเร่งทันใจ กำลังจากเครื่องยนต์บวกกับเกียร์ 10 สปีดทำงานร่วมกันอย่างลงตัว สอดคลองกันดีทั้งช่วงความเร็วต่ำและความเร็วสูง ช่วงถนนคอนกรีตเรียบตัวรถนิ่งและมั่นคงดี ระบบช่วงล่างและระบบกันสะเทือน FOX Shock รู้สึก “แน่น” และ “หนึบ” ใช้ได้เลยทีเดียว การเข้าโค้งทั้งกว้างและแคบมั่นคงดีมาก ส่วนสภาพเส้นทางที่ชำรุดเป็นหลุมบ่อเมื่อควบเจ้า Ranger FX4 Max จะรู้สึกถึงความสะเทือนมากไปหน่อย แต่ก็สามารถขับผ่านไปได้อย่างมั่นคงและไม่เสียอาการใดๆทั้งสิ้น การบังคับควบคุมพวงมาลัยมั่นคงและเบาแรง อีกทั้งยังสามารถบังคับเลี้ยวหักหลบ “หลุม” กว้างๆได้อย่างฉับไวดี ส่วนของการขับบนทางเรียบเป็นแค่ช่วงระยะทางสั้นๆก็เป็นอันจบการทดลองขับในครั้งนี้


          สรุป Ranger FX4 Max รถกระบะรุ่นพิเศษจาก Ford ถือว่าออกแบบมาหลายๆจุดได้ตรงกับการใช้งานแบบออฟโรดมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆที่ติดตัวมา สมรรถนะทั้งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนที่ยอมรับว่า “ดีเยี่ยม” ระบบช่วงล่างที่มี FOX Shock ไอเท็มเด็ดมาจากโรงงาน ทั้งหมดเหมาะกับการใช้งาน “ลุย” ได้ทุกความต้องการ แถมยังสามารถขับขี่บนทางเรียบได้อย่างสบายอีกด้วย...  


Tags :

view