ALL NEW MAZDA BT-50 เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับได้ทดลองขับนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอกันในสนามปิด ก็ถึงเวลาได้ทดลองขับกันจริงๆจังๆบนท้องถนนจริงบ้าง ครั้งนี้การทดลองขับ “ทีมงาน Speedxonline/onairFM89.5” ก็ได้รับเชิญมาเช่นกัน โดยเส้นทางที่ได้ขับเราจะเริ่มจากกรุงเทพที่โชว์รูมมาสด้า เจพี ย่านบางแค มุ่งสู่ “ภูผา-ป่าสน” จังหวัดราชบุรี จากนั้นก็เดินทางต่อสู่ Unique77 บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และขับต่อไปจนจบการทดลองขับที่โชว์รูมมาสด้า เจพี รวมระยะทางทั้งหมด 344 กม. และพิเศษสุดเพราะเราจะได้ลองขับเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 ในรุ่น 1.9 S Hi-Racer แบบ 4 ประตู ขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 1.9 ลิตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ “ยีราฟซิ่ง” กันในครั้งนี้
สำหรับรถปิกอัพมาสด้า B1500 บี-ซีรีย์ แรกสุดเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมปี 1961 จวบจนมาถึงปัจจุบัน มาสด้า บีที-50 ใหม่ จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นและออกมาเพื่อให้แฟนๆปิกอัพของมาสค้าหายคิดถึงกัน โดยรถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้ารุ่นอื่นๆ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเพื่อให้สามารถ “ใช้งานได้ทุกโอกาส” จึงทำให้รถปิกอัพมาสด้า BT-50 ใหม่ โดดเด่นในทุกการใช้งาน ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการไปจนถึงการขับแบบออฟโร้ด ซึ่งแนวคิด โคโดะ ดีไซน์ เด่นด้วยรายละเอียดโดยรวมที่งดงามและให้ความรู้สึกหนักแน่น
ในส่วนด้านหน้าดูมีมิติ เส้นสายบนตัวรถช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ไฟหน้าเลนส์โปรเจ็คเตอร์ แบบ LED รวมถึงกระจังหน้าที่มีการออกแบบรูปทรงที่ทำให้มองแล้วรู้ทันทีว่าเป็นรถมาสด้า เส้นสายด้านข้างก็มาแบบ โคโดะ ดีไซน์ ที่มีลายเส้นสายลงตัวและเป็นเอกลักษณ์ของค่าย ล้อที่ใช้เป็นขนาด 18 นิ้ว กับยางขนาด 265/60R18 ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์ในด้านหน้ามีทั้งหมดขนาด 17 นิ้ว ในขณะที่ด้านหลังใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว
ขนาดสัดส่วนตัวรถกว้าง 1,870 มม. ยาว 5,280 มม. สูง 1,790 มม.ส่วนระยะต่ำสุดจากพื้น 240 มม. สามารถขับลุยน้ำได้สูงถึงระดับ 800 มม. สุดท้ายเป็นรัศมีวงเลี้ยว 6.1 ม. ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double-Wishbone) และชุดแหนบ (Leaf Spring) ทำให้ช่วงล่างของรถปิกอัพมาสด้า BT-50 สามารถให้การควบคุมรถอย่างมีเสถียรภาพและขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในรุ่น ยกสูง ยังได้มีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถมากขึ้น
การออกแบบภายในที่ผสมผสานอย่างมีรสนิยมระหว่างคุณภาพและความแข็งแกร่งห้องโดยสารมีความสะดวกสบายและมีความเงียบเทียบเท่ากับรถเอสยูวี ในรุ่น 1.9 S Hi-Racer ตัวเบาะนั่งทั้งหมดจะหุ้มด้วยผ้าที่ลวดลายสวยงามไม่เบา ภายในห้องโดบสารยังออกแบบระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างเบาะนั่งฝั่งซ้ายและขวาก็ช่วยทำให้ห้องโดยสารกว้างขวาง อีกทั้งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งานไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้ช้งานบนพวงมาลัยด้วย ตัวกุญแจเป็นแบบรีโมท และมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลัง ขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบ Infotainment รวมถึงหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง WXGA ขนาด 7 นิ้ว(ส่วนรุ่นท้อปจะเป็นขนาด 9 นิ้ว) ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay® และฟังก์ชั่น Android Auto อีกด้วยรุ่น 4 ประตูหรือ ดับเบิ้ล แค็ป มีการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง และช่อง USB เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารแถวหลังยิ่งขึ้น ตัวหน้าปัดเป็นมาตรวัดแบบอนาล็อก 2 ชุด คือวัดรอบและวัดความเร็ว โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อยู่ตรงกลาง รุ่น 1.9 S Hi-Racer จะมีการแสดงตำแหน่งของเกียร์ที่ใช้งานอยู่ให้ผู้ขับดูอีกด้วย ส่วนระบบปรับอากาศในรุ่น 1.9 S Hi-Racer ที่ได้ทดลองขับจะเป็นปุ่มหมุนควบคุมแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบอัตโนมัติเหมือนรุ่นท้อป ซึ่งก็ดีไปอีกแบบเพราะใช้งานง่ายดายดีเหมือนกัน
ส่วนของขุมพลังเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 ในรุ่น 1.9 S Hi-Racer เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร ปริมาตรกระบอกสูบ 1,898 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 80.0 x 94.4 มม.อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 ทำแรงม้าได้สูงสุด 150 (110) PS (กิโลวัตต์) 3,600 รอบต่อนาที/กับแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16.1กม./ลิตร (อ้างอิงจากรุ่นเกียร์อัตโนมัติ) ระบบเกียร์เป็นแบบธรรมดา 6 สปีด สิ่งที่ต้องการสำหรับการเลือกใช้งานระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น โดยเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันในรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ก็มีมาให้อย่างไม่น้อยหน้าใคร อย่างระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ระบบช่วยจอด Parking Aid ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM เป็นระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังเมื่อเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกันที่ใช้กับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนคนขับเมื่อตรวจพบว่ามีรถยนต์กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทางด้านหลัง และใน ALL NEW MAZDA BT-50 ในรุ่น 1.9 S Hi-Racer ขับ 2 ล้ออยังมี ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบควบคุมเครื่องยนต์และเบรกเพื่อควบคุมอัตราเร่งและรักษาความเร็วเมื่อขับรถลงทางลาดชันได้อย่างปลอดภัย
ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA)เมื่อคนขับยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อเร่งเครื่องยนต์จากจุดออกตัวบนทางลาดชัด ระบบเบรกจะยังคงทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลไปข้างหลัง ระบบช่วยจอด Parking Aidเซ็นเซอร์ 4 ตัวบนกันชนด้านหน้า(มีเพิ่มในรุ่นท้อป)และด้านหลังจะช่วยกะระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุ โดยระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปใกล้วัตถุจนถึงระยะห่างที่กำหนด
เริ่มในส่วนของการทดลองขับเจ้า 1.9 S Hi-Racer ขับ 2 ล้อเกียร์ธรรมดา 6 สปีด บอกตามตรงเลยว่าไม่ได้ขับรถที่เป็นเกียร์แบบธรรมดามานานเป็นปีเลย สัมผัสแรกแป้นคลัทช์ความรู้สึกวางเท้าได้ถนัดดี ลอง “เหยียบ” ดูถือว่าน้ำหนักของแป้นเหยียบเบาและนิ่มกว่ารถยุคก่อนๆมาก เอื้อมไปจับคันเกียร์ระยะ “เอื้อม” ของแขนพอดี หัวเกียร์ออกแบบจับถนัดมือดี ขยับเข้าเกียร์ 1 รู้สึกนุ่มนวลและไม่ต้องออกแรงดันมาก ถอนเท้าอกจากคลัทช์เบาเท้าและระยะสั้นมากตัวรถก็เริ่มออกตัวอย่างง่ายดาย การทำงานที่นุ่มนวลและเบาแรงอย่างนี้คงทำให้การใช้งานในชีวิตประจำไม่รู้สึกลำบากแน่นอน ออกตัวไปเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 1.9 S Hi-Racer คันนี้ถือว่าค่อนข้างขับง่ายกว่าที่คิด การออกตัวทันใจพอสมควร ไม่อืดอย่างที่คิดแต่ต้นว่าเป็นเครื่องแค่ 1.9 อัตราเร่งแซงถือว่าทำได้ทันใจ การเปลี่ยนเกียร์ไปตำแหน่ง 2-3-4-5-6 นุ่มนวล และ ฉับไว ทำงานสอดรับกับกำลังของเครื่องยนต์ 1.9 ได้อย่างลงตัว ซึ่งถ้าเป็นตัวเกียร์อัตโนมัติที่เคยลองขับจะมีอาการกระตุกเล็กๆยามเปลี่ยนเกียร์บ้างเหมือนกัน ส่วนการขับยามเจอการจราจรที่คับคั่งก็ไม่รู้สึกถึงความลำบากเพราะ “เกียร์นุ่ม” และ “คลัทช์เบา” นั่นเอง
ส่วนขอองการบังคับควบคุมพวงมาลัยถือว่าฉับไวใช้ได้ ยามเปลี่ยนเลนซ้าย-ขวาสามรถบังคับควบคุมได้อย่างแม่นยำ ความรู้สึกขับได้สนุกตามสไตล์ของค่ายมาสด้า ระบบช่วงล่างค่อนข้างหนึบและแน่น อารมณ์ไม่เหมือนขับรถปิกอัพเลยความรู้สึกเหมือนขับรถ SUV ดีๆคันหนึ่งเลยทีเดียว การเข้าโค้งไม่ว่าจะกว้างหรือแคบตัวรถมีอาการเอียงเพียงเล็กน้อยแต่การเกาะถนนถือว่าน่าประทับใจมาก ระบบกันสะเทือนทางมาสด้าทำการบ้านมาได้ดี สภาพถนนหลายๆช่วงในเส้นทางขรุขระและผิวถนนกำลังซ่อมแซม ตัวรถสามารถซับการกระแทกและลดสั่นสะเทือนได้ดีมาก ในห้องโดยสารสามารถรู้สึกถึงสภาพถนนที่ “แย่” ถึง “แย่มาก” เพียงเล็กน้อยเท่านั้น การไต่ความเร็วในทางราบทำได้ต่อเนื่อง แต่บางช่วงการเดินทางต้องขึ้นเนินทางชัน กำลังของตัวรถมีการ “ดรอป” ลงไปบ้าง การขับขึ้นทางชันไม่ “ปรู๊ดปร๊าด” แต่ยังสามารถขึ้นไปได้อย่างเรื่อยๆ
ระบบเบรกหน้าตาอาจจะไม่ “ว้าว” แต่การทำงานสามารถสร้างความมั่นใจให้ผู้ขับได้อย่างดี การเบรกเพื่อชะลอความเร็วตอนขับช้าๆทำได้นุ่มนวลดี น้ำหนักแป้นเหยียบก็กำลังดีการหน่วงความเร็วในช่วงความเร็วสูงก็ยังถือว่ามีประสิทธิภาพดี สามารถลดความเร็วลงมาไดตามใจต้องการอีกทั้งยังไม่มีอาการ “เป๋” ของตัวรถแต่อย่างใด อีกอย่างหนึ่งเวลาขับเจ้า ALL NEW MAZDA BT-50 1.9 S Hi-Racer คันนี้เป็นระยะทางไกลๆผู้ขับจะไม่รู้สึกเมื่อยเท่าไรนักมีเพียงที่รองขาของตัวเบาะนั่งสั้นไปหน่อยผู้ขับที่มีส่วนสูงมากหน่อยจะรู้สึกเมื่อยต้นขาหน่อยเท่านั้นเอง สุดท้ายเสียงจากภายนอกตัวรถมีเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารไม่มากถือว่าทางมาสด้าจัดการกันเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี
สรุป ALL NEW MAZDA BT-50 1.9 S Hi-Racer “ยีราฟซิ่ง” คันนี้ ในส่วนการออกแบบภายนอกและภายใน “สวย” ตามสไตล์มาสด้า เครื่องยนต์ 1.9 ตัวนี้พละกำลังและอัตราเร่งไม่ “เกรี้ยวกราด” แต่ก็แรงพอตัว สามารถใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างสบาย เกียร์ธรรมดายุคใหม่ใช้งานง่ายไม่ลำบาก ช่วงล่างนุ่มหนึบกำลังดี อัตราสิ้นเปลืองในการเดินทางระดับ 16 กม./ลิตรทำได้สบายๆ ถ้าชอบความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาสด้าปิกอัพคันนี้ถือว่าน่าใช้เลยทีเดียวครับ....