ทดลองขับ TOYOTA Innova Crysta

ทดลองขับ TOYOTA Innova Crysta

โตโยต้า บุกตลาดรถเอนกประสงค์สไสตล์เอ็มพีวีในเมืองไทย ด้วยการเปิดตัว Toyota Innova Crysta เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทีมงาน SpeedX ก็ได้มีโอกาสร่วมทดลองขับแบบกลุ่มกับเขาเช่นกันครับ

สำหรับการทดลองขับช่วงแรกเราได้ลองสมรรถนะในศูนย์ทดสอบรถยนต์โตโยต้า และเมื่อทดลองขับในสนามเรียบร้อยก็ถึงช่วงการทดลองขับขี่จากการใช้งานจริง ด้วยการเดินทางไปที่เขาใหญ่ด้วยระยะทางกว่า 275 กิโลเมตร 

สำหรับ Toyota Innova Crysta เป็นยนตกรรมอเนกประสงค์ระดับหรู (Premium Crossover MPV) ที่เน้นเรื่องของความหรูหราสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเวอร์ชั่นเดิม การออกแบบตัวรถใหม่บนพื้นฐานคอนเซปต์ที่เน้นความสวยงามและหรูหรา โดยจะเน้นการจับกลุ่มความเป็น พรีเมี่ยม มากยิ่งขึ้น ด้านหน้ามีการออกแบบใหม่ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ สีดำ พร้อมการตกแต่งด้วยเส้นสายโครเมี่ยม ชุดโคมไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ และชุดไฟตัดหมอกล่าง ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ทั้งหมดเน้นความหรูและแตกต่างด้วยชุดโคมรูปตัว L และเอกลักษณ์ของรถยนต์โตโยต้ายุคใหม่กับ แอร์โรไดนามิก ฟิน บริเวณหลังคา กรอบไฟเลี้ยว และบริเวณด้านข้างชุดโคมไฟท้ายเสริมความโดดเด่น ในส่วนล้อมาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่พิเศษที่เน้นความสวยงาม

 

การออกแบบแชสซีส์ใหม่เพิ่มความแข็งแรงทนแรงบิดได้สูงขึ้น เฟรมเพิ่มจุดเชื่อมจากเดิม 328 เป็น 394 จุด ช่วงล่างหน้าอิสระ ปีกนกคู่ คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังคานแข็ง คอยล์สปริง โฟร์ลิงก์ ช่วงล่างปรับปรุงใหม่โดยเฉพาะด้านหลัง เปลี่ยนลูกสูบในโช้กอับใหญ่ขึ้น เพิ่มความนุ่มนวล ซับแรงกระแทกได้ดี และเปลี่ยนจุดยึดหูโช้กใหม่ ระบบเบรกหน้าดิสก์ขนาด 296 มิลลิเมตร ด้านหลังดรัมเบรกขนาด 254 มิลลิเมตร มาพร้อมตัวช่วย ABS, EBD, BA, TRC และ VSC พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS

 

สำหรับห้องโดยสารเวอร์ชั่นใหม่นี้เพิ่มความเงียบให้มากขึ้นด้วยการติดตั้งวัสดุดูดซับเสียงรอบคัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น จอสัมผัสที่คอนโซลกลางขนาด 8 นิ้ว เป็นจอสำหรับกล้องมองหลัง ที่มาพร้อมเส้นกะระยะแบบแปรผันตามการหมุนพวงมาลัย มาตรวัด Optitron MID TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ระบบ Smart Entry และ Push Start เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า ความปลอดภัยผ่านมาตรฐาน ASEAN NCAP 5 ดาว พร้อมแอร์แบ็ก 7 ใบ

 

ส่วนระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมระบบใหม่ Brake Override System ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ขับ ที่อาจเหยียบเบรกกับคันเร่งพร้อมกัน ในขณะที่กำลังเหยียบคันเร่ง ถ้าระบบตรวจพบสัญญาณการเบรก ก็จะปรับลดกำลังจากเครื่องยนต์ และให้ความสำคัญกับการเบรกเป็นหลัก

 

สำหรับเครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV เป็นบล็อกเดียวกับ โตโยต้า รีโว่ และ ฟอร์จูนเนอร์ เป็นแบบดีเซล 4 สูบ คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รองรับน้ำมันดีเซล B7 มีกำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 36.6 กก.-ม. ที่ 1,200-3,400 รอบต่อนาที เมื่อเทียบกับรีโว่และฟอร์จูนเนอร์แล้ว อินโนวา คริสต้า มีกำลังและแรงบิดน้อยกว่า (รีโว่และฟอร์จูนเนอร์ มีกำลัง 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด รีโว่ 42.8 กก.-ม. ที่ 1,400-2,600 รอบต่อนาที ฟอร์จูนเนอร์ 45.5 กก.-ม. ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที) โดยแรงบิดของอินโนวา คริสต้า มาในรอบที่ต่ำกว่าและช่วงรอบแรงบิดสูงสุดกว้างกว่า รวมทั้งอัตราสิ้นเปลืองดีกว่าที่ 14.08 กิโลเมตรต่อลิตร (รีโว่ 13.7 และฟอร์จูนเนอร์ 12.35 กิโลเมตรต่อลิตร) เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ โอเวอร์ไดรฟ์ที่เกียร์ 5 และ 6 ขับเคลื่อนล้อหลัง ถังน้ำมันจุ 55 ลิตร

 

ช่วงแรกการขับในสนามทดสอบของโตโยต้า Toyota Driving Experience Park เริ่มจากการทดสอบขับขี่ในทางลื่นด้วยการขับบนพื้นปูกระเบื้องและฉีดน้ำจนลื่น สังเกตว่าถ้ากดคันเร่งสุดระบบ VSC และ TRC จะทำงานกำลังของเครื่องยนต์ก็จะถูกตัดออก เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี แต่ยังพอมีกำลังให้รถขับเคลื่อนไปได้ช้าๆ และยังควบคุมทิศทางรถได้ ทดสอบ ABS ที่จะรู้สึกสะท้านที่แป้นเบรกเพียงเล็กน้อย ขับสลาลมที่ความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งการเปลี่ยนเลนที่ความเร็วค่อนข้างสูง รถก็ยังมีความมั่นคง น้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างตึงมือ การควบคุมจึงมั่นคงเป็นธรรมชาติ การขับผ่านถนนขรุขระหรือคอสะพานจำลอง พบว่าช่วงล่างมีความนุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกได้ดี จบการทดลองขับในศูนย์ฝึกเรียบร้อยก็ออกเดินทางไปทดลองขับในสภาพของการใช้งานจริงกันเลย

 

เส้นทางทดสอบในครั้งนี้เราเดินทางไปเขาใหญ่ โดยใช้ถนนบางนา-ตราด แยกซ้ายออกไปเชื่อมกับมอเตอร์เวย์ ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา ระยะทางช่วงแรกประมาณ 160 กิโลเมตร ระหว่างทางทดลองนั่งบนเบาะหน้าข้างผู้ขับ จากนั้นปีนไปนั่งเบาะแถว 2 ที่เป็นแบบแยก Captain Seat มีที่เท้าแขนในตัว บนเพดานมีสวิตช์ควบคุมแอร์แบบแยก บนเพดานมีลูกเล่นไฟซ่อนฝ้าปรับความสว่างได้ช่วยให้ภายในดูหรูหรามากยิ่งขึ้น หลังพนักพิงเบาะหน้ามีถาดแบบพับได้ พร้อมที่วางแก้ว มีช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์ แต่ไม่มีช่อง USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ ลองย้ายไปนั่งเบาะแถวหลังสุด ต้องเลื่อนเบาะแถว 2 ไปด้านหน้าบ้าง จึงจะนั่งบนเบาะแถว 3 ได้สบาย การนั่งบนเบาะแถว 2 และ 3 ถือว่ายังมีความนุ่มนวลอยู่มาก ไม่รู้สึกกระแทกหรือเหวี่ยงแม้จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูง และมีการโดดคอสะพานเป็นบางครั้ง เบาะแถว 3 มีพื้นที่พอสมควร ผู้ใหญ่ที่มีความสูง 170 เซนติเมตร นั่งได้สบายพอควร บนเพดานเหนือเบาะแถว 2 และ 3 มีช่องแอร์ ช่วยกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง

เริ่มออกเดินทางแบบฟรีรัน แต่ยังคงไปกันเป็นกลุ่ม อัตราเร่งช่วงออกตัว ถ้าเป็นการเร่งต่อเนื่องจะทำได้อย่างทันใจ เร่งได้ลื่นไหลพอสมควร บางช่วงเป็นถนน 2 เลนสวน ได้ทดลองอัตราเร่งแซงที่ทันใจพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์อยู่ในรอบกลางๆ สามารถเร่งเพิ่มความเร็วได้อย่างทันใจ การเร่งแซงบางจังหวะใช้โหมดเกียร์ +/- ช่วยเลี้ยงรอบไว้ รอจังหวะไม่มีรถสวนมาแล้วกดคันเร่งแซงออกไปได้เลย ไม่ต้องคิ๊กดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ การเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงเน้นความนุ่มนวล

ช่วงล่างมีความนุ่มนวลและมีการยึดเกาะถนนที่ดี เหมาะสมกับประเภทรถ ซับแรงสะเทือนได้ดี และเข้าโค้งแคบๆ ที่ความเร็วค่อนข้างสูงได้อย่างมั่นคง พวงมาลัยเป็นแบบเพาเวอร์ไฮโดรลิค ที่ตอบสนองการใช้งานได้ดีพอสมควร แต่โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นเพาว์เวอร์แบบไฟฟ้ามากกว่า ส่วนเรื่องเบรกการทำงานค่อนข้างฉับไวโดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำ ส่วนที่ความเร็วสูง ถ้าแตะเบรกเบาๆ ก็จะสร้างแรงเบรกได้สอดคล้องกับน้ำหนักในการกดแป้นเบรกได้ดี เรื่องแรงเบรกไม่มีปัญหา เบรกฉุกเฉินได้หนักแน่นมั่นคง ไม่มีอาการเบรกไหล

 

เมื่อเดินทางมาถึงทางขึ้นไปบนเขาใหญ่เพื่อข้ามไปลงฝั่งโคราช ได้ลองระบบช่วงล่างกันอีกรอบ ผิวถนนค่อนข้างลื่นเพราะฝนเพิ่งตกใหม่ๆ มีทางโค้งและขึ้นลงเนินชัน การควบคุมทำได้อย่างสบายเมื่อใช้ความเร็วตามที่อุทยานกำหนด ข้ามลงมาอีกฝั่งแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 3052 มุ่งหน้า โรงแรมดุสิต ดีทู ระยะทางช่วงสุดท้ายใช้ความเร็วไม่สูงนัก อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าประหยัดใช้ได้ทีเดียว

 

บทสรุปของการทดสอบ Toyota Innova Crysta 2.8 V A/T ให้อุปกรณ์มาตรฐานมาแบบครบๆ เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัย ภายในกว้างขวางนั่งสบาย เบาะพับได้หลายรูปแบบทำให้มีขอบเขตการใช้งานที่กว้าง เครื่องยนต์ตอบสนองดี เร่งทันใจ และขับให้ประหยัดได้ไม่ยาก ช่วงล่างเซตมาพอเหมาะได้ทั้งความนุ่มนวลและการยึดเกาะถนนที่ดี ราคา 1.399 ล้านบาท น่าสนใจและคุ้มค่า

 

สุดท้ายขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ได้เชิญทีมงาน Speedx เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วยครับ








view